จากกรณีตำรวจหญิงเข้าแจ้งความ ถูกเพจสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน นำรูปพร้อมคลิปวิดีโอ ที่แก๊งคลอเซ็นเตอร์ใช้เทคโนโลยี AI ตัดต่อภาพ ปลอมเป็นตัวเธอ โทรวิดิโอคอลหาเหยื่อ พร้อมข่มขู่ล้วงข้อมูลส่วนบุคคล หลอกโอนเงิน สร้างความเสียหายอย่างหนักจนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น และแอดมินเพจสถานีตำรวจได้นำรูปและคลิปวีดิโอนั้น มาโพสต์หวังเตือนภัยประชาชนให้ระวังภัยมิจฉาชีพ กลายเป็นกระแสโซเชียล ประชาชนแชร์คลิปต่อ จนทัวร์ลงตำรวจหญิง และครอบครัวอย่างหนักนั้น
นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอเตือนให้ประชาชนและเพจต่างๆ ไม่แชร์ข้อมูลของผู้เสียหาย เนื่องจากข้อมูลทั้งหมด เป็นข้อมูลที่กลุ่มมิจฉาชีพปลอมแปลงขึ้นมา โดยใช้เทคโนโลยี AI ในการตัดแต่งภาพและนำภาพเหล่านั้นมาหลอกเหยื่อ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
สำหรับกรณีนี้ ซึ่งมีการทำข้อมูลปลอม/เท็จขึ้นมา หากประชาชนนำไปแชร์ต่อ เสี่ยงต้องรับโทษหนัก ทั้งทางอาญา ทางแพ่ง ทางปกครอง ตามกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งรวมถึงกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอเตือนให้ประชาชนและเพจต่างๆ ไม่แชร์ข้อมูลของผู้เสียหาย เนื่องจากข้อมูลทั้งหมด เป็นข้อมูลที่กลุ่มมิจฉาชีพปลอมแปลงขึ้นมา โดยใช้เทคโนโลยี AI ในการตัดแต่งภาพและนำภาพเหล่านั้นมาหลอกเหยื่อ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
สำหรับกรณีนี้ ซึ่งมีการทำข้อมูลปลอม/เท็จขึ้นมา หากประชาชนนำไปแชร์ต่อ เสี่ยงต้องรับโทษหนัก ทั้งทางอาญา ทางแพ่ง ทางปกครอง ตามกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งรวมถึงกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง