xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ มุ่งมั่นผลักดันไทยเป็น Aviation Hub ตั้งเป้าสนามบินไทยติด Top20 โลกในปี 2572

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งพัฒนาศักยภาพท่าอากาศยานของไทย ยกระดับมาตรฐาน การให้บริการ และความปลอดภัยด้านการขนส่งทางอากาศตามมาตรฐานสากล เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการบินของไทยสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค พร้อมสั่งการกระทรวงคมนาคมจัดทำแผนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตด้านคมนาคมทางอากาศ เพิ่มเที่ยวบินอย่างเต็มศักยภาพตามวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขานรับนโยบายตามวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี จัดทำแผนดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการเติบโตด้านการคมนาคมทางอากาศของไทยในทุกมิติ มั่นใจว่าด้วยความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ไทยจะดำเนินการตามมาตรฐานการบินขององค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA CAT1) สามารถเปิดให้บริการ เพิ่มเที่ยวบิน หรือเพิ่มจุดบินใหม่ๆ ในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ที่ใช้มาตรฐานด้านการบินของ FAA

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ด้วยศักยภาพ ทรัพยากร และความพร้อมของประเทศ กระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าแผนขยายขีดความสามารถท่าอากาศยาน พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถผลักดันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ติด 1 ใน 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Airport) ประจำปี 2567 ขยับขึ้น 10 อันดับ จากอันดับที่ 68 ประจำปี 2566 ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองติดอันดับ 1 ใน 10 สนามบินโลว์คอสต์ที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Low-Cost Airline Terminals) ประจำปี 2567 และอยู่ระหว่างการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารอีก 81,000 ตารางเมตร และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการทางวิ่งเส้นที่ 3 ในช่วงเดือนกันยายน 2567 เพื่อรองรับเที่ยวบินเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ภายในปี 2572 ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานของไทยติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินของโลก สามารถรองรับผู้โดยสารประมาณ 170 ล้านคน และเที่ยวบินประมาณ 1 ล้านเที่ยวบิน และในปี 2577 สามารถรองรับผู้โดยสารประมาณ 210 ล้านคน และเที่ยวบินประมาณ 1.2 ล้านเที่ยวบิน

ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม ยังชี้ให้เห็นว่า สถิติตัวเลขผู้โดยสารระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – พฤษภาคม 2567 มีผู้โดยสารใช้บริการเดินทางเข้า-ออกท่าอากาศยานของประเทศไทยรวม 81.05 ล้านคน ฟื้นตัวร้อยละ 83.4 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 48.95 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 32.09 ล้านคน มีเที่ยวบินรวม 490,970 เที่ยวบิน ฟื้นตัวร้อยละ 80.9 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 274,410 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 216,560 เที่ยวบิน

นายชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นพัฒนาท่าอากาศยานไทยตามวิสัยทัศน์ Aviation Hub ยกระดับศักยภาพท่าอากาศยานไทยเพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานไทยตั้งเป้าให้ติดระดับท่าอากาศยานระดับโลก ให้สามารถรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก ตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์การเดินทาง เชื่อมั่นสามารถเพิ่มเม็ดเงินเข้าไทย ขยายโอกาสประเทศ