นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท คุยการเมือง" ระบุว่า
บัตรเบ่ง ปลิวว่อน "ทำเนียบ-สภา"
"เศรษฐา-วันนอร์" ต้องรับผิดชอบ
เรื่องการวิ่งเต้นหาตำแหน่งทางการเมือง เพื่อนำไปพิมพ์นามบัตร และใช้บัตรประจำตำแหน่ง ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรออกให้ ไปหาประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นมาในทุกยุคทุกสมัย จนกลายเป็นเรื่องปกติในแวดวงการเมืองไปแล้ว
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะไม่ใช่เฉพาะวิ่งเต้น ใช้เส้นสายฝากเข้าเป็นที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ หรือเลขานุการเท่านั้น แต่มีการซื้อขายตำแหน่งกันและนำ บัตรประจำตำแหน่งนั้นๆ หาประโยชน์หรือไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า“บัตรเบ่ง” ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับสถาบันรัฐสภาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จะต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา เงียบหายผ่านไปกับสายลม
แต่ที่ยิ่งกว่านั้น ปัญหาการซื้อขายบัตรประจำตำแหน่งทางการเมือง กำลังลุกลามเข้าไปสู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา ผู้ติดตาม คณะทำงานหน้าห้อง มีการวิ่งเต้นซื้อขายวุฒิการศึกษา ปริญญาบัตร เพื่อนำไปต่อยอดในตำแหน่งทางการเมืองอีกด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นขบวนการใหญ่โต ทั้งในทำเนียบรัฐบาล และสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในทุกวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลทางการเมือง ที่มีตำแหน่งสำคัญ มักจะเลี้ยงลูกน้อง หรือมีลูกน้อง ผู้ติดตามเดินล้อมหน้าล้อมหลังเป็นจำนวนมาก เดินทางไปไหนมาไหนแต่ละครั้ง มีรถผู้ติดตามกันเป็นขบวนยาวเหยียด สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ยิ่งค่านิยมสังคมไทยชอบคนตำแหน่งใหญ่โต มีบารมี ฟอร์มใหญ่ สร้างภาพเก่ง ให้เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคม ทั้งที่เบื้องหลังของคนเหล่านี้ ทำธุรกิจสีเทา เป็นนักฮั้วประมูล หากินกับผู้รับเหมา โกงกินงบประมาณแผ่นดินฯลฯ
ผมอยู่ในแวดวงการเมืองมาเป็นเวลา 20 กว่าปี ได้เห็นผู้คนที่เข้ามาอยู่วงการนี้ทุกรูปแบบ มีตั้งแต่พวก18มงกุฎ พวกล๊อบบี้ยิสต์ หรือนักต้ม นักตบทรัพย์ แก็งควาย ที่เข้ามาเป็นเหลือบเกาะนักการเมือง หาประโยชน์กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของฝ่ายบริหาร ได้สะสางปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาล และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ได้สะสาง ปัดกวาดพวกเหลือบการเมือง ที่เข้ามาใช้รัฐสภาเป็นสถานที่หาประโยชน์ ให้เสร็จสิ้นและหมดไปโดยเร็วที่สุด
อยากให้รัฐบาลได้ปลูกฝังค่านิยม ไม่ไหว้คนโกงไม่นับถือหรือเคารพคนเลว เป็นค่านิยมให้เกิดขึ้นในสังคม ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ ขอให้มีความจริงจัง ยึดแนวความคิดของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ