นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 3-8 กรกฎาคม 2567 มีแนวโน้มที่จะมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก ซึ่ง สทนช. ได้ประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ล่วงหน้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน และในวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 คาดว่ามีแนวโน้มที่จะมีฝนตกมากในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อีกครั้ง ซึ่งได้กำชับหน่วยงานให้มีการเฝ้าระวังในทุกพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้ดำเนินการเชิงป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังภัยจากดินโคลนถล่มด้วย โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทันต่อสถานการณ์
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำปาง จ.ระยอง จ.หนองบัวลำภู จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต โดย จ.ภูเก็ต มีฝนตกในพื้นที่จำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นความแปรปรวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ โดยเกิดฝนตกหนักมีความเข้มฝนสูงต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง มีปริมาณฝนสะสมรวมถึง 347 มิลลิเมตร ซึ่งปัจจุบันลักษณะของระบบการระบายน้ำยังไม่รองรับกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนที่ทำให้เส้นทางการระบายน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอุทกภัย นอกจากนี้ยังมีฝนตกในบริเวณพื้นที่ภูเขาของ จ.ภูเก็ต ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งอำนวยการจราจร ระบายน้ำออกจากพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยทั้ง 5 จังหวัดดังกล่าวได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว