xs
xsm
sm
md
lg

"ปิยะบุตร"หนุน กกต.รับรองผลเลือก สว.ก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการเลือก สว.ว่า ผลที่ออกมาแปลกประหลาดมาก และเห็นว่าหากมีปัญหาไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่อยากได้ สว. มาจากหลากหลายอาชีพ ก็ถึงเวลาที่ควรคิดทบทวนว่าควรออกแบบที่มา สว. อย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่ควรจะเหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเมื่อเลือกมาแล้ว แม้มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติจำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล ดังนั้น การที่จะนำไปสู่โมฆะทั้งระบบคงเป็นไปไม่ได้ และใครที่คิดฝันว่าอยากให้ สว. 250 คน รักษาการไปเรื่อยๆ คิดว่าเป็นการฝันเกินไป และเชื่อว่าอีกไม่นานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงจะรับรอง และให้ สว.ชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งส่วนตัวก็มองว่าควรรับรองก่อน แล้วค่อยสอยทีหลัง

ส่วนเมื่อมี สว. แล้วควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ สว.เลยหรือไม่ นายปิยะบุตร กล่าวว่า การจะเปลี่ยนที่มาของ สว. หรือยกเลิกการมี สว. จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต้องอาศัยเสียง สว. ในการโหวต ซึ่งอาจจะเป็นปัญหา และคงต้องไปหวังการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามา แต่ตอนนี้ก็ต้องรณรงค์ทางความคิดกันไปก่อนว่าถ้ายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเปลี่ยนที่มาของ สว. หรือจะยกเลิกไปเลย แต่ครั้งนี้เมื่อเลือกมาแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อ

นายปิยะบุตร ย้ำว่า ตนมีจุดยืนมาตลอดว่าประเทศไทยถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว และการตรวจสอบถ่วงดุลกับสภาผู้แทนราษฎรสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นกลไกของการแบ่งสรรปันส่วน การคัดเลือกองค์กรอิสระ ที่ยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายเสนอมาด้วยจำนวนที่เท่าเทียมกัน โดยฝ่ายค้านเสนอมาส่วนหนึ่งและฝ่ายรัฐบาลเสนอมาส่วนหนึ่ง แล้วมาหาข้อยุติร่วมกัน ด้วยคะแนนเสียงที่สูงมาก ก็เชื่อว่าไม่มีใครยึดองค์กรอิสระได้ ขณะเดียวกัน ก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญที่สามารถเชิญคนนอกเข้ามาร่วมพิจารณาเรื่องสำคัญๆ ได้ จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะยกเลิก สว. และมีสภาเดี่ยว เพราะเราเคยทดลองมี สว.มา 90 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2475 ทั้งการแต่งตั้ง การเลือกตั้ง และการคัดสรร แต่ก็ไม่ตอบโจทย์ จึงควรคิดทบทวนว่าเรากลับมาใช้สภาเดี่ยวเหมือนกับหลายประเทศ