นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือต่อนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด เพื่อให้ตรวจสอบ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ภายหลังศาลอาญามีคำพิพากษาว่ารองเลขาธิการ ปปง. มีความเกี่ยวพันและรับสินบนจากเว็บพนันออนไลน์ และลักรถยนต์ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ และมีส่วนพัวพันถุงเงิน 6 ล้านบาท ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการยื่นเรื่องนี้ต่อนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. สำนักนายกรัฐมนตรี และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่กลับนิ่งเฉย และประเด็นสำคัญคือ ผู้ที่มาเป็นรองเลขาธิการ ปปง. เป็นคนที่ประชาชนมีความคาดหวัง ต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเมื่อพิสูจน์ความจริงในศาล และศาลได้พิพากษาแล้ว จึงเห็นควรว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องย้าย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ออกจากสำนักงาน ปปง. เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง เหมือนกับที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายฉัตรชัย เคยบอกว่า มีผู้ใหญ่ขอมา แต่ไม่ทราบว่าเป็นระดับไหน แต่ครั้งนี้มีคำพิพากษาจากศาลแล้ว คิดว่านายกรัฐมนตรี และประธาน ปปง. ไม่ควรที่จะนิ่งเฉย เพราะ ปปง. เป็นหน่วยงานที่สำคัญระดับชาติ ตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย อีกทั้งนโยบายของรัฐบาล มีการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ และอายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว รองเลขาธิการ ปปง. ยังอยู่ในตำแหน่งอีก คิดว่าเกินขอบเขตที่คนไทยจะรับได้ เพราะเป็นเรื่องร้ายแรง โดยเฉพาะจริยธรรม
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อประธานกรรมาธิการฯ ครั้งนี้ เป็นที่พึ่งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมามีการร้องเรียนไป แต่เรื่องก็เงียบ และหากเรื่องยังเงียบอีก จะมีการไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดนายกรัฐมนตรีและประธาน ปปง. ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่