นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า รับรองไปก่อน สอยทีหลัง ระวังจะซ้ำรอยเดิม!!!
ผมเห็นข่าวมีผู้สมัคร ส.ว. หลายกลุ่มเข้ายื่นหนังสือร้องคัดค้านการรับรองผล ส.ว. เพิกถอนการเลือกตั้ง ส.ว. เป็นโมฆะ และยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง แต่ได้เห็นข่าวนายแสวง บุญมี เลขา กกต. ออกมาเปิดเผยว่า การเลือก ส.ว. ครั้งนี้มีคำร้องรวมทั้งหมด 614 คำร้อง และจะประกาศรับรองผล 3 ก.ค.67 ไปก่อน ค่อยสอยทีหลัง
ผมเห็นวิธีการทำงานของ กกต.แล้ว รู้สึกเห็นใจ เพราะว่าการเลือกตั้งส.ว. มีกฎระเบียบที่เปิดช่องให้กับกลุ่มคนที่วางแผนจัดตั้งคน และบล็อกโหวตได้จริงๆ ผลที่ออกมาก็ปรากฏชัดว่า มีการบล็อกโหวตเลือกตั้ง ส.ว. ประสบความสำเร็จจริงๆ ซึ่งเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปในสังคม เพียงแต่กกต.จะมีหลักฐานเพียงพอเอาผิดกลุ่มคนเหล่านี้ได้หรือไม่
การประกาศรับรองผลไปก่อน ตามไทม์ไลน์ที่ กกต.กำหนดไว้ และค่อยสอยผู้กระทำผิดภายหลัง ทำให้ผมนึกถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ กกต.ปล่อยผี รับรองผู้ได้รับการเลือกตั้งทุกคน และประกาศว่าจะสอยภายใน 1 ปี จนในที่สุดเมื่อครบ 1 ปีแล้ว กกต.ก็ทำได้แค่ให้ใบแดงผู้ได้รับการเลือกตั้งเพียง 2 คน ทั้งที่การซื้อเสียงเกิดขึ้นทั้ง 400 เขต และผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งมาไม่น้อยกว่า 300 เขต ที่มีการซื้อเสียงกัน แต่ กกต.ไม่สามารถจับคนซื้อเสียง หรือให้ใบแดงคนซื้อเสียงได้เลย
การให้ใบแดงผู้ได้รับการเลือกตั้งส.ส.2 ใบ ก็เป็นข้อหาการจ่ายเงินจัดเลี้ยง และการจ่ายเงินเป็นสปอนเซอร์ให้กับวัดเท่านั้น ส่วนการซื้อเสียงที่จดรายชื่อกันมาเป็นโพย และจ่ายกันเป็นรายหัวๆละ 500 บาท 1000 บาท 2000 บาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมชั่วร้ายที่สุดในการเลือกตั้ง แต่ กกต.ไม่สามารถจับและให้ใบแดงใครได้เลย
ผมหวังว่าการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งนี้ไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลัง คงจะไม่เป็นประวัติซ้ำรอยอีก และเข้าใจความรู้สึกของ กกต. ที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับ ส.ว.ชุดเก่า ที่กำลังรักษาการอยู่ ต้องการให้พ้นวาระไปโดยเร็ว จึงอยากรับรอง ส.ว.ชุดใหม่ให้ได้ปฏิบัติหน้าที่ทันที