นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic ในฐานะอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 เปิดเผยว่า เตรียมยื่นศาลปกครองสูงสุด ในวันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 10.00 น. เพื่อขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราวการประกาศรับรองผลการเลือก สว. ไม่ตรงปก หวั่นการเมืองสภาสูงเสียศูนย์ยิ่งกว่าสภาผัวเมีย จากการติดตามข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์ตรงในการเลือก สว. น่าจะเป็นการเลือกที่สกปรกทางการเมืองครั้งหนึ่ง ผู้สมัครกรอกประวัติอาชีพ ไม่ตรงกลุ่มก็มี กกต. ปล่อยมาได้อย่างไร และจากมีกลุ่มก้อนทางการเมืองเข้ามาจัดการ โดยอยากให้ กกต. สร้างประวัติศาสตร์เร่งกู้ศักดิ์ศรี ความเชื่อมั่นต่อองค์กร ด้วยการสั่งฟันว่าที่ สว. นกแล เหตุเส้นทางเชื่อมโยงพรรคการเมืองชัดเจน รวมถึงผู้สมัครแจ้งประวัติอาชีพกับกลุ่มที่สมัครไม่ตรงกัน ส่อเจตนาบางประการ
นายจาตุรันต์ กล่าวอีกว่า การเลือก สว.คราวนี้เต็มไปด้วยกลยุทธ์ หักเหลี่ยม เฉือนคม โกหก หลอกลวง หักหลังกันอย่างน่าเกลียด น่าเวทนา สุดท้ายหลังหักกันถ้วนหน้า ที่หนักหนาสาหัสจนไม่สามารถปล่อยผ่าน คือการสมัครเข้ามา ไม่ได้อยากเป็น สว.อย่างบริสุทธิ์ใจ ผิดเจตนาของรัฐธรรมนูญคือ ให้คนมาสมัครเพื่อเสนอตัวเป็นสมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติ
ตนเองในฐานะผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งทั้งเป็นอดีตผู้สมัคร สว. ในครั้งนี้ และเสียหายโดยตรงอีกทางหนึ่งก็คือเป็นประชาชนผู้เสียภาษีเพื่อเป็นเงินประจำตำแหน่งให้กับสมาชิกวุฒิสภาและผู้ช่วยอีก 8 คนในชุดนี้ จึงร้องขอให้ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองการประกาศรับรองผลสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งคาดว่า กกต.จะประกาศรับรองในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ออกไปก่อน ที่จะรับรอง สว.ที่ได้มาโดยผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายตามมาตรา 74 รู้ว่าตนไม่มีสิทธิ์แต่ก็มาสมัครรับเลือกตั้งตามกลุ่มวิชาชีพ 20 กลุ่ม ถือว่าเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกผิดของ กกต. ซึ่งให้เจ้าหน้าที่รับสมัครเป็นผู้พิจารณาตีความโดยอะลุ่มอล่วย ไม่ยึดหลักเกณฑ์ตามกลุ่มวิชาชีพ ที่กำหนดมาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้สมัครที่ถูกจัดตั้งมาได้สมัครในกลุ่มที่มีผู้พยายามจัดตั้งคนมาลงสมัครโดยผิดธรรมชาติของวิชาชีพ