xs
xsm
sm
md
lg

“หมอดื้อ”เผยยาแก้แพ้ใช้นานบ่อยเสี่ยงสมองเสื่อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อดีตหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่ายาแก้แพ้ ใช้นาน บ่อยสมองเสื่อม

ยาแก้แพ้ แก้เวียน เมารถ เมาเรือ เป็นยาปลอดภัยพอสมควรจัดเป็นยาโบราณ ยาเหล่านึ้นอกจากเรื่องแพ้ เวียนหัว บ้านหมุน ยังนำมาใช้เป็นยานอนหลับ เฉพาะกิจ และยังมีสรรพคุณลดอาการสั่นที่เจอในโรคพาร์กินสันได้ดีพอสมควร

ข้อเสียที่มีพ่วงตามมาคือง่วง ฤทธิ์สำคัญคือต้านระบบ Cholinergic(Anti- cholinergic, AC) ดังนั้น อาจมีปากแห้ง น้ำลาย น้ำตาแห้งร่วม บางรายที่มีปัญหาเรื่องปัสสาวะ ก็อาจจะต้องเบ่งและอาจกระทบเรื่องความดันสูงในลูกตา โดยเฉพาะคนเป็นต้อหิน ยาที่มีฤทธิ์ดังกล่าว มียานอกจากกลุ่มแก้แพ้ด้วย

ทั้งนั้มีการจัดอันดับความแรง (Anticholinergic burden score) เป็น 1-2-3 โดยแรงมากคือ เบอร์ 3
ที่ถูกจัดเป็นแรงมาก เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้เวียน Chlorpheniramine Dimenhydrinate(Dramamine) Diphenhydramine (Benadryl) Meclizine
ยาอารมณ์ดีด้านเศร้า เช่น doxepin nortriptyline ยาช่วยอาการปัสสาวะลำบากหรือผิดปกติรวมทั้งช้ำรั่ว เช่น Darifenacin Oxybutynin Tolterodine
(Detrusitol) Trospium Solifenacin

ตั้งแต่ปี 2005 มีการตั้งข้อสังเกตว่ายากลุ่มต่างๆที่มีฤทธ์ AC นี้ จะมีผลทำให้สมองเฉื่อยชาไม่แล่น

กลุ่ม Alzheimer”s Disease Neuroimaging Initiative (วารสารสมาคมแพทย์อเมริกันทางประสาทวิทยาปี 2016) มีกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ยา AC 350 ราย และกลุ่มที่ใช้ยา AC ในระดับฤทธิ์ 2 และ 3 (AC+) 52 ราย
ลักษณะประจำกลุ่มที่คล้ายคลึงกันคืออายุเฉลี่ย 73 ปี ผู้ชาย ผู้หญิงใกล้เคียงกัน ระดับการศึกษาพอกัน มียีนอัลไซเมอร์ (28% AC+ เทียบกับ 25% ใน AC_)
เป็นคนขาว (84.6 ต่อ 94.2%) ปริมาณชนิดของยาที่ใช้ประจำ ใกล้กัน ทั้งสองกลุ่มนี้มีไม่มากนักที่เคยเป็นอัมพฤกษ์ โรคหัวใจ หรือเคยผ่าตัดหัวใจ เส้นเลือด หรือเป็นเบาหวาน รวมทั้งเป็นโรคนอนกรน อากาศไม่เข้าสมอง (ซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงสมองเสื่อม) หัวใจเต้นระริก AF ซึ่งจะมีลิ่มเลือดไปอุดเส้นเลือดสมอง โรคซึมเศร้า กังวล นอนไม่หลับ รวมทั้งสมาธิสั้น โรคจิต และอุบัติเหตุสมอง ที่มีเยอะใกล้กัน

ทั้ง 2 กลุ่มคือ มีความดันสูง ไขมันสูง ประมาณกึ่งหนึ่ง และทั้งสองกลุ่มถนัดขวาเป็นส่วนมาก การติดตามสมองมีทั้งการประเมินพุทธปัญญา (Cognitive scores) การตรวจดูเมตาบอลิซึ่มของสมองด้วยเครื่อง PET scan (FDG) ดูการใช้กลูโคสของสมอง รวมทั้งดูความเหี่ยวฝ่อของสมอง โดยใช้คอมพิวเตอร์สมองสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) โดยมีการวัดขนาดปริมาตรของสมองแต่ละส่วนอย่างละเอียดเป็นระยะ
จากการติดตาม 96 เดือน ผลปรากฏว่ากลุ่ม AC+ มีความฝ่อของสมองทั้งปริมาตร เปลือกสมองและบริเวณกลีบขมับ (ควบคุมความจำ) และเนื่องจากสมองฝ่อเลยทำให้มีช่องโพรงน้ำในสมองกว้างขึ้น (Lateral และ Inferior lateral ventricle volumes) รวมทั้งมีการทำงานถดถอยจากการตรวจสมองด้วย PET Scan การตรวจทางพุทธิปัญญามีทั้งความจำ การทำงานด้านการจัดการ (Executive) พบมีคะแนนเลวกว่ากลุ่ม AC_ โดยเฉพาะกลุ่ม AC+ ที่ใช้ยาแรงระดับ 3

กลไกของยา AC ไม่ทราบแน่ชัด

จะอย่างไรก็ตาม ยาแก้แพ้รวมยากลุ่มอื่นๆ ทางปัสสาวะและช้ำรั่ว ยาอารมณ์ดี เป็นยาสำคัญและมีประโยชน์
ดังนั้นต้องพิจารณาความจำเป็นและขนาดของยาที่ใช้ และระยะเวลาที่ใช้

สูตรที่ดูว่า ยาที่ใช้ มีความแรงระดับใด ระดับหนึ่งเท่ากับค่อนข้างปลอดภัย เมื่อเทียบกับระดับสองและสาม ทั้งนี้โดยใส่ชื่อยาในช่องว่าง https://www.acbcalc.com/