นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #เอาแต่โทษปฏิวัติหนักกว่าสว.ฮั้ว
การเลือก สว.รอบนี้ เป็นที่รับรู้ มีขบวนการฮั้วเกิดขึ้น เพียงแต่ใครจะฮั้วได้เก่งกว่าใคร ผลของการฮั้ว จึงขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก สว.ต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง
ที่สำคัญที่สุด สว.ต้องเป็นกลาง อิสระแล้ว สว.ยังต้องมีวุฒิภาวะมากกว่าส.ส. มีประสบการณ์มากกว่า เพราะต้องกลั่นกรองกฎหมาย ที่สำคัญคือการตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งเป็นหัวใจของประชาธิปไตย การเห็นชอบ ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ และองค์กรอิสระเช่น กกต., ป.ป.ช., ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
การได้ สว.ฮั้ว ที่เกี่ยวโยงกับพรรคการเมือง โอกาสที่จะได้บุคคลในองค์กรอิสระเหล่านี้ เป็นคนของพรรคการเมือง จึงค่อนข้างสูง การที่จะหวังให้องค์กรอิสระ มาคอยตรวจสอบถ่วงดุลให้สมเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ จึงเป็นไปได้ยากมาก วงจรของการทุจริตคอร์รัปชั่นยังคงเหมือนเดิม
แม้ตามกระแสข่าว สว.สายสีส้มได้น้อย ปัญหากระบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้รัฐสภาอาจจะยากขึ้น แต่สว.สายสีน้ำเงิน ก็ไม่อาจทำให้การเมืองไทยโปร่งใส ระบบยังคงวนอยู่กับคอร์รัปชั่นนิยม
กระบวนการที่ทำให้ สว. ผูกโยงกับพรรคการเมืองนั้นถือว่าแย่มากแล้ว แต่สิ่งที่แย่กว่านี้มากคือ เจ้าของคอกสีแดง พวกที่แพ้เลือก สว. แต่ไปโทษผลพวงของการปฏิวัติ หรือผิดมาตรา112 แต่ไปโทษการรัฐประหาร คนประเภทนี้อันตรายที่สุด ของระบบการเมืองไทย