พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ลงนามออกคำสั่งโยกย้าย พ.ต.อ.ไพโรจน์ นาเมืองรักษ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ ไปช่วยรายการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กรณีแชตไลน์ต่อว่าผู้บังคับบัญชา เนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โพสต์ข้อความลงในไลน์ จำนวน 2 กลุ่ม โดยมีเนื้อหาในทางเสื่อมเสียต่อ พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (ผบก.น.9) ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร และทางราชการเป็นอย่างมาก
จากกรณีดังกล่าว กองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้รับผิดชอบงานจเรตำรวจ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผลการตรวจสอบยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงตามที่ พ.ต.อ.ไพโรจน์ กล่าวอ้าง จึงมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งต้นสังกัด เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนมอบหมาย และให้ พ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี รอง ผบก.น.9 รักษาราชการแทน ผกก.สน.ภาษีเจริญ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ในคำสั่ง ระบุว่า การโพสต์ข้อความของ พ.ต.อ.ไพโรจน์ มีมูลความผิดทางวินัยตำรวจ ในเรื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งการในหน้าที่ราชการโดยชอบโดยกฎหมาย และระเบียบของทางราชการในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการมีความเห็นทางคดี หรือการตรวจพิสูจน์ โดยไม่ขัดขืน หรือหลีกเลี่ยง ไม่รักษาระเบียบการเคารพตามสายการบังคับบัญชา ยศ และตำแหน่ง ไม่สุภาพเรียบร้อย รักษาความสามัคคี และต้องช่วยเหลือกันในการปฏิบัติราชการ ระหว่างข้าราชการตำรวจด้วยกัน และผู้ร่วมปฏิบัติราชการ กระทำการอันเป็นเหตุให้แตกความสามัคคี ระหว่างข้าราชการตำรวจ และกระทำการอย่างใดที่เป็นการกลั่นแกล้งกัน รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา และประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร อีกทั้งยังปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการออกคำสั่งให้ข้าราชการในสังกัดปฏิบัติราชการ ซึ่งเป็นการขัดต่อระเบียบที่เกี่ยวข้อง และไม่มีความชัดเจนในการปฏิบัติเพื่อให้การปฏิบัติราชการของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพและมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 66 และมาตรา 108 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร. พ.ศ.2566 จึงมีคำสั่งดังกล่าว