นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีพบเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มก้อน โดยได้รับรายงานจาก ดร.นพ.สุรเดชช ชวะเดช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ว่า วันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบเด็กนักเรียนป่วยด้วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่พร้อมกันจำนวน 20 ราย จึงส่งทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่สอบสวนโรคและค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม และพบว่า ช่วงวันที่ 17-18 มิถุนายน 2567 มีเด็กนักเรียนที่มีอาการป่วยขาดเรียนอีก 35 ราย จาก 2 ห้องเรียน ผู้ปกครองได้พาไปรักษาที่คลินิกเอกชน แพทย์แจ้งว่าป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ และมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ ตรวจด้วย Test kit พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จำนวน 8 ราย
ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ระบุว่า ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรคได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคในโรงเรียนที่พบเด็กป่วยแล้ว ดังนี้ 1.คัดกรองนักเรียนทุกชั้นเรียน ค้นหา ครูและนักเรียนที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เพื่อหาอุบัติการณ์เกิดโรค 2.เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยที่ยังมีอาการเพื่อตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งอยู่ระหว่างส่งไปยังสถาบันบำราศนราดูร 3.สุ่มเก็บตัวอย่างเพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 10 ราย ผลเป็นลบทุกราย และ 4.สอบถามประวัติการรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ พบว่าเด็กนักเรียนไม่มีประวัติได้รับวัคซีน
นอกจากนี้ แนะนำให้โรงเรียนจัดเตรียมจุดล้างมือ โดยเฉพาะในห้องน้ำและโรงอาหาร พร้อมทั้งอธิบายวิธีการล้างมือ และกระตุ้นให้เด็กนักเรียนล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำหลังสัมผัสวัสดุสิ่งของต่างๆ ให้จัดการเรียนการสอนในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก งดเปิดเครื่องปรับอากาศขณะอยู่ในช่วงการระบาดหรือมีเด็กป่วยจำนวนมาก, ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสร่วม เช่น ราวบันได เครื่องคอมพิวเตอร์ ตู้น้ำดื่ม เป็นประจำ ด้วยน้ำและสบู่ ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดให้ถี่ขึ้น ทั้งช่วงก่อนเข้าเรียน พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน, ให้เด็กนักเรียนใช้แก้วน้ำ ช้อน ส้อมส่วนตัว และคัดกรองเด็กที่มีอาการป่วยทุกเช้า หากพบเด็กป่วย ให้แจ้งครูอนามัยเพื่อสอบถามข้อมูลการเจ็บป่วยและส่งรักษาที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ระบุว่า ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรคได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคในโรงเรียนที่พบเด็กป่วยแล้ว ดังนี้ 1.คัดกรองนักเรียนทุกชั้นเรียน ค้นหา ครูและนักเรียนที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เพื่อหาอุบัติการณ์เกิดโรค 2.เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยที่ยังมีอาการเพื่อตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งอยู่ระหว่างส่งไปยังสถาบันบำราศนราดูร 3.สุ่มเก็บตัวอย่างเพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 10 ราย ผลเป็นลบทุกราย และ 4.สอบถามประวัติการรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ พบว่าเด็กนักเรียนไม่มีประวัติได้รับวัคซีน
นอกจากนี้ แนะนำให้โรงเรียนจัดเตรียมจุดล้างมือ โดยเฉพาะในห้องน้ำและโรงอาหาร พร้อมทั้งอธิบายวิธีการล้างมือ และกระตุ้นให้เด็กนักเรียนล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำหลังสัมผัสวัสดุสิ่งของต่างๆ ให้จัดการเรียนการสอนในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก งดเปิดเครื่องปรับอากาศขณะอยู่ในช่วงการระบาดหรือมีเด็กป่วยจำนวนมาก, ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสร่วม เช่น ราวบันได เครื่องคอมพิวเตอร์ ตู้น้ำดื่ม เป็นประจำ ด้วยน้ำและสบู่ ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดให้ถี่ขึ้น ทั้งช่วงก่อนเข้าเรียน พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน, ให้เด็กนักเรียนใช้แก้วน้ำ ช้อน ส้อมส่วนตัว และคัดกรองเด็กที่มีอาการป่วยทุกเช้า หากพบเด็กป่วย ให้แจ้งครูอนามัยเพื่อสอบถามข้อมูลการเจ็บป่วยและส่งรักษาที่โรงพยาบาล