นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และเปิดระบบรับลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้หนี้นอกระบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 จนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 (3 เดือน) เพื่อให้ความช่วยเหลือเจ้าหนี้ และลูกหนี้นอกระบบผ่านกลไกต่าง ๆ ของรัฐ ซึ่งได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ https://debt.dopa.go.th และลงทะเบียนด้วยตนเองที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครทุกแห่ง รวมทั้งช่องทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567
ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ในฐานะหัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจังหวัด/อำเภอ มีการได้บูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งอัยการ ทหาร ตำรวจ ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกทำให้ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ในอัตราที่เป็นธรรม และเข้าสู่ระบบของสถาบันการเงินของรัฐ โดยมีการชำระเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีแหล่งเงินทุนในการชำระหนี้ และได้มีเงินไปเลี้ยงดูครอบครัวได้
วันนี้เป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จ ของการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของประเทศไทย ซึ่งจากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยมีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ วันนี้สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานข้อมูลความคืบหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ มีลูกหนี้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ครบ 100% แล้วจากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 153,400 ราย ซึ่งสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ย และยุติเรื่อง ทำให้มูลหนี้ลดลง 1,203,577,005 บาท (หนึ่งพันสองร้อยสามล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันห้าบาท) นอกจากนี้ ในจำนวนดังกล่าวมีเจ้าหนี้ และลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 471 คดี เรียบร้อยแล้ว ใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้น109 วัน
การประกาศความสำเร็จในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าปัญหาหนี้นอกระบบจะหมดไปจากประเทศ ซึ่งอาจมีลูกหนี้ และเจ้าหนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ ซึ่งหากมีความประสงค์จะรับความช่วยเหลือผ่านกลไกของภาครัฐ สามารถร้องทุกข์ผ่านช่องทางของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป
สำหรับมาตรการระยะยาว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายในการช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับลูกหนี้นอกระบบ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมแนวทางให้ลูกหนี้สามารถลดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวและการเลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตลอดจนส่งเสริมแนวทางจัดทำบัญชีครัวเรือน ลดความฟุ่มเฟือย หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา การเล่นพนัน และรวมไปถึงการขยายโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ
ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ในฐานะหัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจังหวัด/อำเภอ มีการได้บูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งอัยการ ทหาร ตำรวจ ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกทำให้ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ในอัตราที่เป็นธรรม และเข้าสู่ระบบของสถาบันการเงินของรัฐ โดยมีการชำระเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีแหล่งเงินทุนในการชำระหนี้ และได้มีเงินไปเลี้ยงดูครอบครัวได้
วันนี้เป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จ ของการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของประเทศไทย ซึ่งจากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยมีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ วันนี้สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานข้อมูลความคืบหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ มีลูกหนี้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ครบ 100% แล้วจากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 153,400 ราย ซึ่งสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ย และยุติเรื่อง ทำให้มูลหนี้ลดลง 1,203,577,005 บาท (หนึ่งพันสองร้อยสามล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันห้าบาท) นอกจากนี้ ในจำนวนดังกล่าวมีเจ้าหนี้ และลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 471 คดี เรียบร้อยแล้ว ใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้น109 วัน
การประกาศความสำเร็จในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าปัญหาหนี้นอกระบบจะหมดไปจากประเทศ ซึ่งอาจมีลูกหนี้ และเจ้าหนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ ซึ่งหากมีความประสงค์จะรับความช่วยเหลือผ่านกลไกของภาครัฐ สามารถร้องทุกข์ผ่านช่องทางของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป
สำหรับมาตรการระยะยาว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายในการช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับลูกหนี้นอกระบบ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมแนวทางให้ลูกหนี้สามารถลดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวและการเลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตลอดจนส่งเสริมแนวทางจัดทำบัญชีครัวเรือน ลดความฟุ่มเฟือย หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา การเล่นพนัน และรวมไปถึงการขยายโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ