นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีจีนระงับการนำเข้าทุเรียนหลังตรวจพบสารแคดเมียมเกินกำหนด ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2567 นั้น นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยไปจีน เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งมีการดูแลตั้งแต่สวนผลไม้จนถึงการส่งออก เพื่อควบคุมคุณภาพและป้องกันสารตกค้างในทุเรียน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพทุเรียนไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสส่งออกทุเรียนไทยไปตลาดจีนมากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของทุเรียนไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ถือเป็นตลาดหลักในการส่งออกทุเรียนไทย ควบคุมคุณภาพ ป้องกันสารตกค้าง และระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวทุเรียนอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งมีการลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมและการแก้ไขปัญหาด่านขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีนอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งออกผลไม้ของไทย
สำหรับการส่งออกทุเรียนสดจากไทยไปจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปี (มกราคม – เมษายน 2567) ไทยส่งออก 225,204 ตัน ส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
นายชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าไทยจะยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดส่งออกทุเรียนไปจีนเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องไปอีกหลายปี เพื่อแข่งขันให้กับทุเรียนไทยในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการเข้มงวดมาตรฐานการส่งออก เพื่อให้ประเทศปลายทางได้รับทุเรียนคุณภาพ ทำให้ทุเรียนไทยมีชื่อเสียงที่ดีตลอดมา โดยเชื่อมั่นว่า ด้วยคุณภาพและมาตรฐานของทุเรียนไทยที่เป็นที่ยอมรับนี้ จะเป็นโอกาสในการส่งออกทุเรียนไทยไปตลาดจีน และตลาดอื่นๆ ที่มีศักยภาพมากขึ้น หวังว่ายอดส่งออกทุเรียนไทยจะทะลุ 200,000 ล้านบาท ในอนาคตอันใกล้นี้