xs
xsm
sm
md
lg

"จุลพันธ์"ยอมรับปัจจัยการเมืองส่งผล ฉุดหุ้นไทยทำนิวโลว์ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีหุ้นไทยในช่วงนี้น่าจะมีสาเหตุจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเป็นหลัก เพราะในเดือนมิถุนายน มีปัจจัยทางการเมืองหลายเรื่องเข้ามาพร้อมกัน จึงอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระดับหนึ่ง แต่ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย หรือมีความชัดเจน ก็เชื่อว่าการลงทุนจะกลับมาได้เป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังเร่งพิจารณาสร้างกลไกและหาช่องทางเพื่อกระตุ้นและสร้างความเชื่อมั่นในการสนับสนุนการลงทุนให้กับตลาดทุนไทยที่มีความเหมาะสม โดยขณะนี้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำลังพิจารณาหลายกลไก เช่น เป็นการพิจารณาเรื่องกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือกองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย (Thai ESG) และไม่ใช่แค่เพียงการปรับพื้นฐานในระยะสั้น แต่เป็นการสนับสนุนในระยะกลาง และระยะยาว ทั้งเรื่องการลงทุน โดยการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาศักยภาพแรงงาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้

ส่วนการแต่งตั้งนายธันว์ วุฒิธรรม ซึ่งเคยถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษในความผิดปั่นหุ้น เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนั้น นายจุลพันธ์ ระบุไม่ทราบเรื่องคดีความมาก่อน หลังจากทราบข่าวเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ตนได้พูดคุยกับนายธันว์ และทราบว่าคดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ โดยนายธันว์ พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และได้ขอลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ขอยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากความหละหลวมของตน และขอโทษกับความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น

ส่วนบรรยากาศตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 4 ปี โดยดัชนีหลุด 1,300 จุด ปิดช่วงเย็นวันนี้ 1,296.59 จุด ลดลง 9.97 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,483.68 ล้านบาท กลุ่มนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีเกือบแสนล้านบาท และมีการสอบถามถึงมาตรการดูแลการซื้อขายชอร์ต หลังจากมีปริมาณการชอร์ตเพิ่มขึ้น

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กร และกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า มาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์ที่จะมาใช้แทน Zero-plus Tick จะเริ่มใช้มาตรการวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 และวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว โดย Uptick Rule เป็นหนึ่งในมาตรการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์ โดยกำหนดให้ขายชอร์ต (ในทุกหลักทรัพย์) ได้ในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (ปัจจุบันให้ขายชอร์ตได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่า Zero-plus Tick)

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่าเมื่อ ตลท. บังคับใช้มาตรการ Uptick Rule ได้กับทุกหลักทรัพย์ แทนการขายชอร์ตที่สามารถทำได้โดยที่ราคาขายไม่ต่ำกว่าราคาล่าสุด (Zero Plus Tick Rule) เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย เนื่องจากจะทำให้เกิดการชอร์ตเซลยากขึ้น ซึ่งหุ้นไทยที่ลดลงก็เกิดจากปัจจัยในประเทศทั้งการเมืองและโครงสร้างเศรษฐกิจของไทย