xs
xsm
sm
md
lg

ชวนคนไทยนับถอยหลังอีก 2 วันฉลองร่าง กม.สมรสเท่าเทียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 17.00 น. ของวันอังคารที่ 18 มิถุนายนนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อแสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่สนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังจากกรรมาธิการวุฒิสภามีการประชุมเรื่องนี้เสร็จแล้ว และเตรียมเปิดประชุมวุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. … หรือ "ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม" ในวันอังคารที่ 18 มิถุนายน

โดยในงานจะมีทั้งคณะรัฐมนตรี เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยที่ให้ความสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ผู้ก่อตั้งและคณะทำงานบางกอกไพร์ด (Bangkok Pride) หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน และภาคประชาสังคมผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ เครือข่ายพันธมิตรสีรุ้ง ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และสื่อมวลชนอีกมากมาย

นางรัดเกล้า กล่าวว่า วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 ถือเป็นวันดีเดย์แห่งชาติ ที่คนไทยจับตาดูหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในเรื่องนั้นคือการที่ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเดินหน้าเข้าสู่เส้นชัย โดยหากที่ประชุมวุฒิสภาเห็นชอบ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะส่งมายังคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยและจะมีผลใช้บังคับหลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วัน หรือประมาณช่วงปลายปีนี้

สำหรับงานฉลองที่สนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้านั้นเป็นเพียงการคิกออฟของการเฉลิมฉลอง โดยในเวลา 18.00 น. ขบวนพาเหรดของภาคประชาชนจะเดินไปที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bacc) เขตปทุมวัน เพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้งการแสดงแดรกโชว์ การแสดงดนตรี การรวมตัวกันของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศที่จะเป็นอนาคตของครอบครัวภายใต้สมรสเท่าเทียมนี้ มีการประกาศถ้อยแถลงชัยชนะของการสมรสเท่าเทียมกัน และมีการเปิดสัญลักษณ์สมรสเท่าเทียมกัน อีกด้วย

ทั้งนี้ เดือนมิถุนายน ของทุกปี ในหลายประเทศจะมีการจัดงานของกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่เราเรียกกันว่าเป็นเดือนแห่งเทศกาลไพรด์ หรือ Pride Month โดยเดือนแห่งเทศกาลไพรด์นี้จะเป็นเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศ เป็นเดือนที่แสดงถึงความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIAN+ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่ได้ไปร่วมกิจกรรมเดินพาเหรด อีกทั้งในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่น่าจดจำ เพราะนับว่าเป็นวันของการพลิกหน้าประวัติศาตร์ เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้ รัฐบาลจึงจัดกิจกรรมขึ้น เพื่อตอกย้ำให้ทุกคนเห็นถึง "วินาทีของความเท่าเทียม" ที่รัฐบาลนี้สนับสนุนและผลักดันมาโดยตลอด ดังนั้นจึงขอชวนประชาชนได้แสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นนี้ และทำให้โลกเห็นว่า ไทยกำลังจะเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ถัดจากไต้หวัน และเนปาล และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีกฎหมายแต่งงานของบุคคลเพศเดียวกัน