น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ทางทะเล ซึ่งเต่าในทะเลถือเป็นหนึ่งในนั้น รัฐบาลได้ตระหนักถึงการลดจำนวนลง และมีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ไปในไม่ช้า โดยเฉพาะเต่าทะเลในน่านน้ำไทย ถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายคุ้มครองและ อนุรักษ์เต่าทะเลแล้วก็ตาม
น.ส.เกณิกา กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใย ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการในการอนุรักษ์เต่าและขยายพันธุ์ โดยเฉพาะ 5 สายพันธุ์เสี่ยงสูญพันธุ์ ได้แก่ เต่ามะเฟืองเสี่ยงสูญพันธุ์มากที่สุด รองลงมา คือ เต่าหัวค้อน เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่าตนุ ตามลำดับ สำหรับ "เต่ามะเฟือง" ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าสงวน ส่วนเต่าทะเลอีก 4 ชนิด อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนลดพลาสติก ร่วมอนุรักษ์เต่าทะเล เพราะพบว่าปัญหาหลักที่เต่าทะเลทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลกระทบโดยตรง จากพฤติกรรมมนุษย์เนื่องจากภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยเฉพาะ ปัญหาขยะพลาสติก ที่ปนเปื้อนลงสู่ทะเล การลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล การติดเครื่องมือประมง โดยเฉพาะในช่วงฤดูวางไข่ สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เต่าทะเลลดลงอีกด้วย