จากกรณีที่ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมคณะ เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เข้าพบ พล.ร.อ. เตีย โซ๊ะคา รอง ผบ.ทร. และ หน.โค้ชการ์ด ที่โรงแรมพนมเปญ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 มิ.ย.) เพื่อหารือและขอความร่วมมือในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน จำนวน 3 ลำ ที่หลบหนีออกมาจากหน้าสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าเข้ามาด้านเกาะช้าง จ.ตราด และหลบหนีออกนอกน่านน้ำไทย มาทางด้านประเทศกัมพูชา โดยเบื้องต้น รอง ผบ.ทร.กัมพูชา ได้รับปากจะช่วยตรวจสอบ ค้นหาเป้าหมายดังกล่าวนั้น
วันนี้ (14 มิ.ย.67) ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ น.อ.ธงฉาน บุญระเทพ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ประจำกรุงพนมเปญ เพื่อขอความร่วมมือในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านทะเลติดต่อ ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม เบื้องต้น ยังไม่พบเรือทั้ง 3 ลำ ในเขตน่านน้ำกัมพูชา แต่ที่น่าจับตามองคือ เรือทั้ง 3 ลำ อาจจะเข้าไปในเขตน่านน้ำประเทศเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรือคงไม่กล้าเข้ามาทอดสมอในน่านน้ำกัมพูชา เนื่องจากกลัว พล.ร.อ.เตีย ซกคา หน.โค้ชการ์ด ที่สามารถเชื่อมต่อ และสามารถประสานงานได้ทุกประเทศ แถมยังมีความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพเรือไทย และประเทศไทย จึงคาดว่า เรือทั้ง 3 ลำ คงลอยลำอยู่ในเขตน่านน้ำสากล ย่านประเทศเวียดนาม
วันนี้ (14 มิ.ย.67) ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ น.อ.ธงฉาน บุญระเทพ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ประจำกรุงพนมเปญ เพื่อขอความร่วมมือในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านทะเลติดต่อ ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม เบื้องต้น ยังไม่พบเรือทั้ง 3 ลำ ในเขตน่านน้ำกัมพูชา แต่ที่น่าจับตามองคือ เรือทั้ง 3 ลำ อาจจะเข้าไปในเขตน่านน้ำประเทศเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรือคงไม่กล้าเข้ามาทอดสมอในน่านน้ำกัมพูชา เนื่องจากกลัว พล.ร.อ.เตีย ซกคา หน.โค้ชการ์ด ที่สามารถเชื่อมต่อ และสามารถประสานงานได้ทุกประเทศ แถมยังมีความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพเรือไทย และประเทศไทย จึงคาดว่า เรือทั้ง 3 ลำ คงลอยลำอยู่ในเขตน่านน้ำสากล ย่านประเทศเวียดนาม