นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า อุ๊งอิ๊ง หนีสื่อ ดีกว่าพูดแล้วติดลบ
ผมเห็นภาพข่าวคุณอุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร วิ่งหนีนักข่าวแล้ว รู้สึกสงสาร เข้าใจและเห็นใจมาก แม้ว่าคุณอุ๊งอิ๊งจะออกมาโพสต์ Facebook แก้ตัว ชี้แจงว่า ไม่ได้หนีสื่อ แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อประเด็นการเมือง เพราะต้องการให้เกียรติเจ้าภาพ ไม่อยากให้ประเด็นการเมืองกลบงานแถลงข่าว Love Pride ขอสื่อให้เกียรติ-เคารพสิทธิกันและกัน ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่พยายามนำมาเป็นข้ออ้างกับสังคม
แต่ในความเป็นจริงชีวิตของนักการเมืองกับสื่อมวลชนเป็นของคู่กัน ไม่ว่านักการเมืองจะไปร่วมในกิจกรรมใด ถ้ามีประเด็นการเมืองร้อนแรงที่จะต้องสอบถาม สื่อมวลชนก็สามารถใช้สิทธิ์สอบถามความเห็นได้ในทุกสถานที่ บางครั้งไม่เว้นแม้แต่งานศพ ซึ่งนักการเมืองส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจ และให้ความร่วมมือในการตอบคำถามของสื่อมวลชน
แต่ในกรณีของคุณอุ๊งอิ๊ง ผมเข้าใจในข้อจำกัดของเขา เพราะหลายครั้งที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจะเกิดภาพลบ มีกระแสตีกลับอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการเมืองที่แหลมคม คุณอุ๊งอิ๊งไม่สามารถตอบคำถามที่เป็นบวกได้ อาจจะเป็นเพราะขาดวุฒิภาวะทางการเมือง ประสบการณ์ทางการเมืองยังน้อยอยู่ จึงยึดสุภาษิตโบราณ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
ผมเคยตั้งข้อสังเกต และให้คำแนะนำไปหลายครั้งแล้วว่า คุณอุ๊งอิ๊งไม่ควรที่จะแสดงความเห็นทางการเมืองให้มากนัก หลีกเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเสีย ซึ่งการที่คุณอุ๊งอิ๊งเดินเลี่ยงนักข่าวหนีการให้สัมภาษณ์ ประเด็นคุณทักษิณยื่นขอความเป็นธรรมในความผิดคดึ ม.112 ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะตอบพลาดไปก็จะติดลบทั้งพ่อทั้งลูก
ผมไม่อยากให้สื่อมวลชนไปบีบคั้นหรือกดดัน รุกไล่ถามประเด็นการเมืองต่อคุณอุ๊งอิ๊งมากเกินไป อยากให้เข้าใจว่า เขาคือมะม่วงบ่มแก๊ส ที่คุณพ่อซึ่งเป็นเจ้าของพรรคอุปโหลกขึ้นมาให้เป็นหัวหน้าพรรค จึงไม่มีความพร้อมในทางการเมืองเท่าที่ควร ถ้าจะถามเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ หรือเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว แบรนด์เนม ก็น่าจะเป็นไปได้มากกว่า สื่อมวลชนต้องให้โอกาสเขาสั่งสมประสบการณ์ เรียนรู้ทางการเมืองอีกสักระยะหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้คุณอุ๊งอิ๊งพยายามออกงาน เดินตามหลังคุณทักษิณผู้เป็นพ่อไปในงานกิจกรรมต่างๆอยู่หลายครั้ง ผมเห็นภาพแล้วรู้สึกว่า เหมือนกับคุณพ่อพาลูกไปเที่ยว ยังเป็นเด็กน้อยตามหลังพ่อ ไม่มีภาพความเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่หลงเหลืออยู่เลย
การที่คุณอุ๊งอิ๊งจะแข็งแกร่งบนเวทีการเมืองได้ คุณทักษิณต้องให้โอกาสเขายืนบนลำแข้งด้วยตัวเอง อย่าหนีบอยู่ข้างกายเหมือนเป็นลูกแง ต้องปล่อยให้คุณอุ๊งอิ๊งเดินบนถนนการเมืองด้วยตัวเองอย่างมั่นใจจะดีกว่า ยิ่งคุณทักษิณเคลื่อนไหวทางการเมืองมากเท่าไหร่ ยิ่งไปกดทับบทบาทของคุณอุ๊งอิ๊งมากเท่านั้น
ผมขออนุญาตแสดงความเห็นในฐานะนักการเมืองรุ่นพี่ ด้วยความห่วงใยและปรารถนาดีที่อยากจะเห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ มีความเข้มแข็ง มีภาพความเป็นผู้นำที่สง่างาม บนเวทีการเมืองของประเทศ