นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. ได้ลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานกับบริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ นับเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 69 ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ.
"นิคมฯ แอลพีพี นครสวรรค์" เป็นโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ BIOECONOMY โดยนำความรู้ นวัตกรรม และความได้เปรียบของประเทศไทย ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ผลผลิตทางเกษตร มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้เป็นสินค้าที่ใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การเกษตร อาหารเสริมสุขภาพ เครื่องสำอาง การแพทย์ และพลังงาน เกิดความสมดุลทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
"เนื่องด้วยศักยภาพของพื้นที่ และความพร้อมของบริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด เชื่อว่านิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่ง กนอ.พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของกระทรวงอุตสาหกรรม และประเทศต่อไป" ผู้ว่าการ กนอ. ระบุ
โครงการนี้ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ กนอ. เมื่อวันที่ 21 ก.พ.67 ด้วยงบลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภคประมาณ 854.44 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศกว่า 18,216 ล้านบาท และสร้างงานกว่า 4,554 ตำแหน่ง ใช้ระยะเวลาการพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปี หลังได้รับการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2569
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 673 ไร่ ใน ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ภายใต้แนวคิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) มีพื้นที่สีเขียว และแนวกันชนเชิงนิเวศ จุดเด่นของโครงการ คือ การส่งเสริมการจ้างงานและกระจายการผลิตไปยังภาคกลางตอนบน และยังสอดคล้องกับนโยบาย BCG ด้วยการใช้วัตถุดิบภาคการเกษตรในท้องถิ่น มาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านความเชี่ยวชาญของบริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด