ในวันนี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ปริมาณ 15,000 ตัน ยื่นซองคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. โดยรายแรก เดินทางมาตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น.และเริ่มทยอยตามมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาปิดรับ มีผู้มายื่นประมูลทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเจ้าของโรงสี และผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญจากจังหวัดต่าง ๆ เช่น กำแพงเพชร ชัยนาท นครสวรรค์ สุพรรณบุรี อุบลราชธานี เป็นต้น
สำหรับผู้ยื่นประมูลทั้ง 8 ราย ได้แก่ 1. บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง 2. บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด 3. หจก.อุบลไบโอเกษตร 4. บริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร 6. บริษัท ทรัพย์แสงทอง สุพรรณบุรี 7. บริษัท สหธัญ และ 8. บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024
นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติจะตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ทางเว็บไซต์ของ อคส.ที่ www.pwo.co.th จากนั้นวันที่ 17 มิถุนายน จะเปิดให้ผู้ผ่านคุณสมบัติยื่นซองเสนอราคา และเปิดซองวันเดียวกัน ก่อนประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลวันที่ 21 มิถุนายน จากที่เคยห่วงว่าจะไม่มีผู้มายื่นซองคุณสมบัติก็คลายกังวลไปได้ ข้าวจำนวนดังกล่าวมีผู้สนใจและสามารถนำไปปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อจำหน่ายไปยังตลาดเป้าหมายได้
สำหรับการยื่นซองคุณสมบัติครั้งนี้ มีคนในวงการค้าข้าวมาร่วมสังเกตการณ์กันอย่างคึกคัก แต่บางรายไม่ได้เข้าร่วมประมูล โดยผู้สังเกตการณ์รายหนึ่งจากบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอราคาน่าจะได้กิโลกรัมละ 12-13 บาท เพราะถึงแม้ลักษณะทางกายภาพยังดีอยู่ แต่ผู้ชนะการประมูลต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ต่ำกว่าตันละ 2,500 บาท หรือกิโลกรัมละ 2.50 บาท ตั้งแต่ค่ากรรมกรขนข้าวขึ้นรถบรรทุกออกจากโกดังที่ จ.สุรินทร์ และขนออกจากรถเมื่อถึงสถานที่ปลายทาง ค่าขนส่ง ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว ค่าดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจนกว่าจะขายได้ หรือส่งออก โดยข้าวล็อตนี้หากจะนำไปส่งออกน่าจะมีเพียงตลาดแอฟริกาเท่านั้น เพราะนิยมบริโภคข้าวเก่า