ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า กูจะสู้หรือกูจะหนีดีวะ?
ตอนนี้ เขายืนอยู่บนทางสองแพร่งในช่วงบั้นปลายของชีวิต
เขาเฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
"กูจะสู้หรือกูจะหนีดีวะ?"
ครั้งนี้ น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดอีกครั้งในชีวิตของเขา ถึงขนาดที่ตัวเขาก็ยังงงๆ ว่า ตัวเขามาถึงจุดที่จนตรอกแบบนี้ได้ยังไง
ที่ผ่านมาเขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาทั้งอำนาจและทรัพย์สินเงินทอง
ครั้นเมื่อได้มาแล้ว เขาก็ยังรู้สึกไม่พอ แต่กลับยิ่งรู้สึกขาดเพิ่มขึ้นไปอีก
เขากลายเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักพอ ไม่เคยพอ และไม่มีวันพอ
ลึกๆ แล้ว เขารู้สึกว่าชีวิตตนเองขาดความมั่นคงปลอดภัยโดยเฉพาะทางจิตใจ จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ไร้ความสุข เจ้าคิดเจ้าแค้น โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงายิ่ง ได้แต่ตีหน้าชื่นอกตรม เขาจะยอมให้คนอื่นล่วงรู้ตัวตนจริงๆ ที่ไร้หน้ากากของเขาไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นคนที่หวาดระแวงต่อทุกคนในทุกเรื่อง
ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
จุดแข็งของเขา คือการมีอำนาจที่กล้าเย้ยกฏหมายกับมีเงินทองล้นฟ้า
จุดอ่อนของเขา คือเป็นคนที่ไม่รอบคอบ ปากไวกว่าความคิด คุมโทสะของตัวเองไม่ได้ ไม่รักษาสัจจะคำพูด กล้ามุสาอย่างหน้าตาเฉย โทษแต่คนอื่นไม่เคยโทษตนเอง
จุดอ่อนอันนี้ของเขากลายเป็น "จุดตาย" ที่ทำให้เขาโดนรุกฆาต เมื่อเขาหวนกลับมาเล่น "เกมอำนาจ" อีกครั้ง เพราะหักห้ามใจตนเองไม่ได้
ตอนนี้เขากำลังถูกบีบให้จนตรอกอีกครั้ง โดยอีกฝ่ายแสร้งเปิด "ทางหนี" ที่เป็น "ทางลอดธรรมชาติ" ให้แก่เขา
"กูจะสู้หรือกูจะหนีดีวะ?"
ตอนนี้เขากำลังคิดหนักมาก อีกฝ่ายรู้จักธรรมชาติแห่งนิสัยของเขาเป็นอย่างดี ซึ่งต่างจากเขาที่เป็นพวกหลงตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลในทุกเรื่อง จึงไม่อาจเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนถี่ถ้วน
การที่เขาต้องมายืนอยู่ตรงจุดนี้ในเวลาที่รวดเร็วมากแค่ไม่กี่เดือน มันย่อมแสดงว่าเขากำลังจะพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในเกมอำนาจอีกครั้งกระมัง
สำหรับเขาแล้ว นี่คือสภาพการณ์ที่ต้องเรียกว่า "สวรรค์ล่ม"
"กูจะสู้หรือกูจะหนีดีวะ?"
ตอนนี้เขากำลังถูกบีบให้ต้องตัดสินใจ แต่สำหรับอีกฝ่ายที่ออกแบบกลยุทธ์นี้เพื่อจัดการกับเขาโดยเฉพาะ คำตอบมันชัดมากเหลือเกินว่าเจ้าตัวจะตัดสินใจเลือกทางไหน
รู้สิ่งใดอื่น มิเท่ารู้ตน
ต่อให้รู้ตน ก็มิเท่าชนะตน
ด้วยความปรารถนาดี
~ สุวินัย ภรณวลัย
Suvinai Pornavalai