xs
xsm
sm
md
lg

"วิษณุ"เผยแพ้ลูกตื๊อนายกฯ ยอมนั่งที่ปรึกษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังมีกระแสข่าวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ​เตรียมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่าที่นายกรัฐมนตรีพูดไปก่อนหน้านี้ แต่จะเล่าเหตุการณ์​ให้ฟังว่า นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาพบตนเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บอกให้ช่วยเป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ตนชี้แจง 3 เหตุผลปฏิเสธไปคือ 1. เรื่องสุขภาพ ที่เป็นทั้งโรคไต และโรคตา 2. ในช่วงเวลา 10 เดือนที่พ้นจากตำแหน่ง ได้รับงานอื่นไว้จำนวนมาก หากต้องลาออกก็จะเสียงาน 3. มีปัญหาที่บ้านต้องจัดการหลายอย่าง

นายกรัฐมนตรี จึงเสนอให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตนจึงตอบว่า ไม่อยากจะวุ่นวายกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน จึงถูกชวนอีกว่าให้มาเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่ต้องเป็นข้าราชการการเมือง ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ไม่มีห้องและรถประจำตำแหน่ง มีแค่เบี้ยประชุม เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาล

ตนจึงถามกลับไปว่า รัฐบาลมีปัญหาอะไร นายกรัฐมนตรี รับว่า ที่ผ่านมามีการถกเถียงระหว่างผู้ไม่รู้กับผู้ไม่รู้ หรือบางครั้งเป็น ครม.กับชาวบ้านนอก ครม. ดังนั้น เมื่อมีปัญหาอะไรจึงอยากปรึกษา ตนจึงตอบรับว่า ถ้าอย่างนั้นเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. จะได้โลว์โปรไฟล์มาหน่อย และอาจจะช่วยดูวาระ ครม. ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี จึงพูดว่า จากการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกันว่า อยากให้นายวิษณุ ร่วมประชุม ครม.ด้วย เพื่อจะได้ทักท้วงได้ทันท่วงที ไม่ใช่มีมติไปแล้วจึงมาแก้ไข

ตนได้ท้วงไปอีกว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีกฤษฎีกา และรัฐมนตรีหลายคนก็เป็นนักกฎหมาย เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในบางเรื่องอยากจะได้ผู้ที่เป็นกลาง เพราะหากนายพีระพันธุ์ พูดอะไร ก็มีหัวโขนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วย หากทะเลาะข้ามกระทรวงแล้วใครจะฟัง ตนจึงบอกว่า แล้วแต่ท่านนายกรัฐมนตรีไปจัดการ แต่หากหาผู้ที่มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีได้แล้ว ตนขอบ๊ายบาย กลับไปทำงาน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้ดำรงตำแหน่งอะไร นายวิษณุ ระบุว่า ตอนแรกจะเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ติดปัญหาหลายอย่าง เช่น การเบิกเบี้ยประชุม และไม่มีสิทธิ์​ออกความเห็นไปนั่งในที่ ประชุม ครม. จึงได้ยินว่า จะยกขึ้นเป็นตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะอย่างไ ก็ไม่มีรถ และห้องประจำตำแหน่ง

เมื่อถามย้ำว่า การกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีถูก 40 สว. ยื่นร้องใช่หรือไม่ นายวิษณุ ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรี จะมาปรึกษาเรื่องนี้ แต่ตนไม่ใช่เจ้าของเรื่อง นายพิชิต ชื่นบาน ต้องเป็นผู้ดำเนินการ รวมทั้งกฤษฎีกา ทีมกฎหมาย และอัยการ ที่ต้องเข้ามาดูเรื่องนี้ และอาจจะให้ตนเข้าไปช่วยดูได้

เมื่อถามว่าเหตุผลที่ใจอ่อน เพราะขณะนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการตระบัดสัตย์ ว่า ก่อนหน้านี้จะไม่รับตำแหน่ง และกลับไปเลี้ยงหลาน นายวิษณุ​ ระบุว่า ตนก็ปฏิเสธ​ ไม่รับตำแหน่ง ถ้าตระบัดสัตย์ ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ผมอุตส่าห์เขียนหนังสือเรื่องชีวิตที่เหมือนทรายกับทะเล วันหนึ่งทะเลก็คือการเมือง ก็ขึ้นมาซัดทรายอยู่เรื่อยๆ ที่หมอดูเคยทายเอาไว้ ซึ่งวันนี้ก็มาถึง ว่าให้เป็นรองนายกฯตนไม่เป็น และย้ำว่าถ้าใครมาชวนตนก็เปิดสะดือให้ดู และก็เปิดจริงๆ เมื่อเขาชวนเป็นรองนายกฯ แต่พอชวนเป็นที่ปรึกษา ซึ่งสถานที่ธรรมดาอาทิตย์หนึ่งทำงานที่บ้าน 6 วัน ใครมีเรื่องอะไรก็เอาแฟ้มมาให้ตนดูที่บ้าน ไม่ได้ลำบากลำบนอะไร ทุกวันนี้สอนหนังสือเนติบัณฑิตเหนื่อยกว่าอีก

นายวิษณุ​ ยืนยันว่า​ ไม่ได้รู้สึกหนักใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของโซเชียล​มีเดีย​ และไม่ได้ลำบากใจ เราอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ใครจะว่าอย่างไรก็ว่ากันได้​ ข้อสำคัญคือ "สุทธิ​ อสุทธิปัจจัตตัง" บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ใจ​ ย่อมรู้แก่ตัวเอง