นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยนายอิทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนา นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงกรณีการเชื่อมจิต
นายพิชิต ระบุว่า การทำงานของสำนักพุทธฯ ภายใต้การกำกับดูแลของตนนั้น จะต้องปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานเชิงรุก หากมีใครแอบอ้างบิดเบือนพระพุทธศาสนา หรืออวดอ้างอภินิหาร สำนักพุทธฯ จะต้องมีคำตอบ มีคำอธิบายอย่างชัดเจนให้ภายใน 7 วัน ต้องตัดสินใจฟันธงว่าถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่า "การเชื่อมจิต" ไม่มีอยู่จริง ส่วนเรื่องการที่ครอบครัวจะฟ้องร้องดำเนินคดี เรื่องนี้ห้ามไม่ได้ ต้องไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของตำรวจจะต้องไปตรวจสอบว่ามีใครร่วมละเมิดกฎหมายหรือไม่ มีใครเสียหายหรือไม่ ซึ่งการแถลงวันนี้ พนักงานสอบสวนสามารถนำไปเป็นพยานหลักฐาน และนำไปสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงต่อไป สำนักพุทธฯ ยินดีที่จะไปให้ข้อมูล
ขณะที่นายอิทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนา (พศ.) ระบุว่า พศ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตาม รวบรวมข้อมูล และคลิปต่างๆ แต่อยากให้เข้าใจว่า พศ. ไม่มีอำนาจไปห้ามหรือระงับยับยั้งบุคคลเผยแพร่คำสอนผิดเพี้ยน แต่ได้มีการรวบรวมข้อมูล จากนี้จะรวบส่งข้อมูลทั้งหมดให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคมฯ ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้มีมติว่าจะให้สำนักพุทธฯดำเนินการกับกรณีนี้อย่างไรต่อไป
ด้านนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ในฐานะประธานตรวจสอบกรณีเด็กเชื่อมจิต ยืนยันว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในพระไตรปิฎก ไม่ปรากฏการเชื่อมจิตในพระไตรปิฎกแต่อย่างใด แต่พบว่าขัดต่อหลักธรรมคุณ 6 ประการ เมื่อไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก ก็ชัดแล้วว่า พระพุทธศาสนาไม่มีเรื่องนี้
นายพิชิต เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา ได้นัดผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ มาพบมาหารือ ทำความเข้าใจเรื่องการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานของสำนักพุทธฯ เป็นเชิงรุก ในเวลา 10.00 น. ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑลสาย 4