xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.แนะหากจะขายข้าว 10 ปี ต้องแปะฉลากบอก ชี้เป็นสิทธิของผู้บริโภค -เป็นหลักสากลทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายจะนำข้าวจากโครงการจำนำข้าวที่เก็บอยู่ในโกดัง ซึ่งมีอายุกว่า 10 ปี ออกมาประมูลขาย ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น ว่า

"รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 มาตรา 46 บัญญัติว่า สิทธิของผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครอง นอกจากนี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 4 กำหนดว่า ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และมีสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ

ซึ่งสอดคล้องกับข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 70/186 ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค (United Nations General Assembly on Consumer Protection) ลงวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558 มีสมาชิกรับรองรับทราบกว่า 193 ประเทศ ซึ่งในภาคผนวก (Annex) ข้อ 3.5 กำหนดให้ผู้บริโภคมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าและบริการตามความต้องการของตัวเอง และต้องได้รับความคุ้มครองจากอันตรายใดๆ ที่อาจเกิดกับสุขภาพของตน

ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการนำข้าที่มีอายุกว่า 10 ปี ไปขาย ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศใด ๆ ในโลก ต้องมีการแสดงฉลากอย่างชัดเจนว่าเป็นข้าวที่มีอายุกว่า 10 ปี เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้รับทราบข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง และต้องมีการขอการรับรองจากหน่วยงานที่ดูแลด้านอาหารและสุขภาพของประเทศปลายทาง (คล้าย อ.ย.) เพื่อให้สามารถวางขายได้ และผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าข้าวดังกล่าวสามารถบริโภคได้โดยปราศจากอันตรายหรือผลกระทบใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของตนไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว

ตนจึงขอให้รัฐบาลพิจารณาให้ถ้วนถี่ ทั้งข้อกฎหมายภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ก่อนตัดสินใจนำข้าวล้อตนี้ออกจำหน่าย เพราะหากเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะในต่างประเทศ จะทำให้สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำมาตลอด คือการออกเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ด้วยงบประมาณของรัฐ เพื่อชักชวนนักลงทุน และโปรโมทซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย จะสูญเปล่า เพราะต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า และมาตรฐานของไทย"