หลังจากรัฐสภาฝรั่งเศสลงมติเมื่อวันอังคาร ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญของนิวแคลิโดเนีย (New Caledonia) ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยให้พลเมืองชาวฝรั่งเศสที่มีที่พักอาศัยประจำอยู่ในนิวแคลิโดเนียมีสิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น จะทำให้มีตัวเลขผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพิ่มจากเดิมอีกหลายพันคน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้นำชุมชน รวมถึงชนเผ่าคานัก (Kanak)
กระทั่งเกิดเหตุจลาจลต่อเนื่องมา 3 คืนแล้ว มีการใช้ความรุนแรง เช่น บุกปล้นสะดมร้านค้า การเผารถยนต์หลายคันและสถานที่ราชการ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงตำรวจ 1 นาย และมีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน จากเหตุปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้าง น.ส.พริสกา เธเรนอท โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ประกาศภาวะฉุกเฉินในนิวแคลิโดเนียในวันนี้ (16 พ.ค.67) สั่งให้ตำรวจ-ทหาร 2,300 นาย เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานที่สำคัญๆ เช่น ท่าเรือ และสนามบินนานาชาติในกรุงนูเมอา พร้อมประกาศมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ นายมาครง เสนอจะเปิดเวทีพูดคุยกับสมาชิกนิติบัญญัติของนิวแคลิโดเนียในวันนี้ เพื่อหารือแนวทางการคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้น หลังเกิดเหตุความไม่สงบครั้งร้ายแรงที่สุดในนิวแคลิโดเนียในรอบ 40 ปี
นิวแคลิโดเนีย ตั้งอยู่ระหว่างออสเตรเลีย กับ ฟิจิ มีประชากร 269,220 คน เป็นหนึ่งในดินแดนโพ้นทะเลหลายแห่งทั่วโลกที่ยังคงเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสในช่วงหลังยุคล่าอาณานิคม ฝรั่งเศสเข้ายึดครองดินแดนนี้ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ในปัจจุบัน ชาวพื้นเมือง รวมถึงชนเผ่าคานัก สนับสนุนให้มีการเรียกร้องเอกราชจากฝรั่งเศส