นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน แต่มีข้าวไม่อาจร่วมทาน
หรือวันนี้คุณธรรมน้ำมิตรในยุทธจักรได้แปรเปลี่ยนไปสิ้น อ้วนเอี๊ยงฮง เริ่มตระหนัก
นับแต่มันฝึกวิชา จั๊บนี้ปึ้ง (จั๊บ=10 นี้ =ปี ปึ้ง= ข้าว) มิตรสหายที่เคยร่วมรบ กลับออกตัวหนีห่าง
แม่ทัพตั้วทิน เคยพลั้งปากว่า วิชานี้เป็นสุดยอดวิชา สมควรถ่ายทอดแก่พลทหารทุกนาย มิทันข้ามคืน น้ำลายที่บ้วนกลับต้องรีบกลืนกลับ
“ข้ามิได้สื่อความดังกล่าว ไพร่พลอย่าได้แตกตื่น” ขุนพลตั้วทิน ชิ่ง
ประมุขเสดแห่งหมู่ตึกแสนเปรมปรี เคยปล่อยข่าวชื่นชมวิชาจั๊บนี้ปึ้ง ว่าทานแล้วอร่อยดี แต่คำกล่าวนี้เลื่อนลอยนัก เพราะไม่มีเสี่ยวเอ้อยืนยัน เพียงแต่แหล่งข่าวบอกว่าได้ทดลองฝึกวิชานี้แล้วเท่านั้น
ชาวเมืองล้วนกระหายใคร่รู้ อยากเห็นการจัดโต๊ะอาหารของเหล่าเสนาบดีโดยใช้เคล็ดวิชาดังกล่าวอย่างพร้อมหน้า
อ้วนเอี๊ยงฮง แม้เคยประกาศ “ได้ เราจะจัดให้ที่ประชุมเสนาบดีได้ลิ้มรสจั๊บนี้ปึ้ง” แต่วันนี้ แทบไม่มีผู้ใดตอบสนอง
พรรคจันทรา แม้มียอดคนมากมาย แต่กลับมิมีผู้ใดออกหน้ามารับประกันวิชาข้าวข้ามทศวรรษนี้ เพราะเกรงต้องรับปากชิมต่อหน้าธารกำนัล
อ้วนเอี๊ยงฮง วันนี้จึงโดดเดี่ยวยิ่ง ต้องต่อสู้เพียงลำพัง
“เรานั้น ตั้งใจทำราชการรับใช้แผ่นดิน กลับถูกอาวุธลับฝ่ายตรงข้ามลอบโจมตี ดราม่า ดราม่าเกินไปแล้ว” อ้วนเอี๊ยงฮง รำพันแบบทดท้อ
“หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน รบกวนท่านอย่าท้อถอย เร่งพิสูจน์ความจริง” เสี่ยวเอ้อ ให้กำลังใจ
“จะต้องให้เราพิสูจน์อะไรอีก” อ้วนเอี๊ยงฮง ถาม
“เบิกข้าวสาร 10 กระสอบ จัดโต๊ะจีนเลี้ยงคณะเสนาบดีสัญจร พร้อมผู้ติดตามทุกมื้อ“
”ฮ่อ ฮ่อ ฮ่อ“ เสียงดังประสานพร้อมกันทั้งแผ่นดิน