นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาพันธ์ชาวนาแห่งประเทศไทย ระบุว่าข้าวที่เก็บไว้เกิน 3 ปี ถือเป็นข้าวเน่านั้น ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในยุคนั้น ยึดถือรายงานของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นหลักในการเอาผิด แต่เวลามีการตัดค่าเสื่อมข้าว ผิดไปจากหลักวิชาการโดยสิ้นเชิง ไม่มีการออกมารับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น การที่บอกว่าข้าว 3 ปี เป็นข้าวเน่า ผิดจากข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักวิชาการที่ไหนบอก หากจะเอาไปกิน ไม่ใช่ว่าเอาไปแล้วกินทันที ผู้ประมูลจะมีการปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อน
ส่วนกรณีที่หลายคนบอกข้าวแบบนี้กินไม่ได้นั้น นายชัย กล่าวว่า คนเรามีฐานะกำลังซื้อไม่เหมือนกัน รสนิยมไม่เหมือนกัน คนที่มีฐานะอาจไม่กินข้าวแบบนี้ จะเลือกกินข้าวที่ใหม่และสดกว่า แต่คนกว่า 7 พันล้านคนในโลกนี้ที่เลือกกินข้าวแบบนี้ก็มีมาก และพ่อค้าข้าวก็มีตลาดแบบนี้อยู่ในมือ ฉะนั้น วาทกรรมที่บอกว่า ข้าว 3 ปี เป็นข้าวเน่า ขอเรียนว่าเป็นวาทกรรมที่มุ่งหวังจะด้อยค่า
ส่วนกรณีที่หลายคนบอกข้าวแบบนี้กินไม่ได้นั้น นายชัย กล่าวว่า คนเรามีฐานะกำลังซื้อไม่เหมือนกัน รสนิยมไม่เหมือนกัน คนที่มีฐานะอาจไม่กินข้าวแบบนี้ จะเลือกกินข้าวที่ใหม่และสดกว่า แต่คนกว่า 7 พันล้านคนในโลกนี้ที่เลือกกินข้าวแบบนี้ก็มีมาก และพ่อค้าข้าวก็มีตลาดแบบนี้อยู่ในมือ ฉะนั้น วาทกรรมที่บอกว่า ข้าว 3 ปี เป็นข้าวเน่า ขอเรียนว่าเป็นวาทกรรมที่มุ่งหวังจะด้อยค่า