การประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติดวันนี้ (8 พ.ค.) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ระบุว่า ปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมายเรื่องปริมาณยาบ้า และความผิด ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมีหลักเกณฑ์ไม่ชัดเจนในการจับผู้เสพผู้ค้า ขอให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดปริมาณที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยปรับลดให้เหลือ 1 เม็ด แทนที่จะเขียนว่าปริมาณเล็กน้อย เพื่อเป็นหลักการให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำตามได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และสื่อสารให้ชัดเจนว่ายาเสพติดจะ 1 เม็ด 2 เม็ดก็ผิด และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นผู้เสพ มิฉะนั้น จะถูกแจ้งข้อหาครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจนด้วยว่า หลักในการจับและสันนิษฐานคือไม่ว่าจะมีกี่เม็ด ก็ผิด และพนักงานสอบสวนต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อดูเจตนาอีกครั้งว่าเป็นผู้เสพหรือผู้ค้า
ส่วนเรื่องของการบำบัดนั้น ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับประสิทธิภาพงานบำบัดยาเสพติด ในศูนย์คัดกรองและโรงพยาบาลให้ดีขึ้น ให้เหมาะสมกับปริมาณผู้ป่วย และขอมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับประสิทธิภาพงานบำบัดยาเสพติดในระบบต้องโทษ เช่น ในเรือนจำ ในระบบคุมประพฤติ และขอให้ทั้งสาธารณสุขและตำรวจทำงานร่วมกันในการจับผู้ที่หลบหนีการบำบัด หรือบำบัดไม่ผ่านมาดำเนินคดีด้วย อย่าปล่อยให้คนเหล่านี้กลับเข้าไปอยู่ในวงจรยาเสพติดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจนด้วยว่า หลักในการจับและสันนิษฐานคือไม่ว่าจะมีกี่เม็ด ก็ผิด และพนักงานสอบสวนต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อดูเจตนาอีกครั้งว่าเป็นผู้เสพหรือผู้ค้า
ส่วนเรื่องของการบำบัดนั้น ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับประสิทธิภาพงานบำบัดยาเสพติด ในศูนย์คัดกรองและโรงพยาบาลให้ดีขึ้น ให้เหมาะสมกับปริมาณผู้ป่วย และขอมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับประสิทธิภาพงานบำบัดยาเสพติดในระบบต้องโทษ เช่น ในเรือนจำ ในระบบคุมประพฤติ และขอให้ทั้งสาธารณสุขและตำรวจทำงานร่วมกันในการจับผู้ที่หลบหนีการบำบัด หรือบำบัดไม่ผ่านมาดำเนินคดีด้วย อย่าปล่อยให้คนเหล่านี้กลับเข้าไปอยู่ในวงจรยาเสพติดอีกครั้ง