xs
xsm
sm
md
lg

"จตุพร"ซัด"ทักษิณ"นัดคุยกองกำลังต่อสู้กับรัฐบาลพม่าเป็นการข้ามหัวอาเซียน หวั่นมีปัญหากับรัฐบาลไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร นัดพูดคุยกับกองกำลังชนเผ่าที่ทำสงครามกับรัฐบาลพม่าว่า ทักษิณเป็นนักโทษอยู่ระหว่างการพักโทษไปพูดคุยในฐานะอะไร มีหน้าที่อะไร และจีนจะคิดอะไรกับการคุยครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ข่าวชิ้นนี้ออกมาจากสำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา (VOA) ภาคภาษาพม่า

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ บอกว่า ทักษิณไปคุยครั้งนี้ รัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ ดังนั้น รัฐบาลรู้สึกอย่างไรกับทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริต แต่มีบารมีเหนือรัฐบาล

อีกอย่างนายกฯ มอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ดูแลความมั่นคงและกระทรวงกลาโหม แต่นายภูมิธรรม เป็นอดีตคอมมิวนิสต์ไทย เคยเข้าป่าอยู่กับกองกำลังสู้รบกับกองทัพไทย ดังนั้นการจัดความสัมพันธ์เช่นนี้ดูเหมือนสอดคล้องกับทักษิณพูดคุยกับกองกำลังชนเผ่าพม่าที่เชียงใหม่จึงตั้งนายภูมิธรรมเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย

“ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลไม่คิดหรือว่า การไปกระทำการดังกล่าวโดยไม่มีสถานะใดๆ ทั้งสิ้นในการเจรจาหรือนัดกลุ่มกำลังชนเผ่ามาพูดคุย อีกอย่างการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านจะรับผิดชอบกับประเทศอย่างไรถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา เพราะเรื่องนี้ตึงเครียดและละเอียดอ่อนมาก นอกจากนี้นายกฯ ควรพูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาด้วย ไม่ใช่พูดอ้ำอึ้ง เพราะเกรงใจผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลคนนี้”

นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าไทยจะเข้าไปดำเนินการใดๆ ต้องเป็นมติของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งขณะนี้ลาวเป็นประธานอาเซียนอยู่ แต่อาเซียนก็ไม่เคยให้คนภายนอกไปทำหน้าที่เช่นนี้ ดังนั้น ทักษิณไปพูดคุยกับกองกำลังต่อสู้กับรัฐบาลพม่าจึงเป็นการข้ามหัวอาเซียน และจะมีปัญหากับรัฐบาลไทย แล้วจะลากไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามในพม่าด้วย

“หากเกิดความเสียหายกับประเทศไทยแล้ว นายกฯ จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะคนภายนอกที่ตัวเองคุกเข่ายกย่องนั้น กำลังชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน ส่อนำไทยไปยุ่งเกี่ยวสงครามภายในประเทศพม่า และเรื่องนี้ไม่มีใครจะกล้าสวนเพื่อรักษาชาติบ้านเมือง และสงครามครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้าจะช่วยก็เป็นเรื่องมนุษยธรรมเท่านั้น”

นายจตุพร กล่าวว่า เคยเตือนมาซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าในเรื่องให้หยุดการกระทำที่จะนำไปสู่เงื่อนไขการยึดอำนาจ ได้พูดมาตลอดถึงการทำลายกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ยอมติดคุกสักวัน การขัดพระบรมราชโองการฯ

ไม่พียงเท่านั้น การพยายามดันดิจิทัลวอลเล็ตทำลายเศรษฐกิจ ดันเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ คาสิโนมาทำลายสังคม และยังจะให้แลนด์บริดจ์มาแบ่งพื้นที่กว่า 3 แสนไร่กับนักลงทุนต่างชาติมาบริหารจัดการแบบรัฐบาลซ้อนรัฐอีก

“แล้วมาถึงปัญหาความมั่นคงที่จะนำไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามในพม่า สิ่งเหล่านี้เป็นเงื่อนไขไปสู่การยึดอำนาจได้ทั้งนั้น เคยเตือนให้หยุดกระทำ แต่ยิ่งขยายการกระทำเพิ่มมากขึ้น โดยที่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้เลย”

ประเทศไทยต้องมาก่อน