xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร”ฟาดพวกทำดีลให้“ทักษิณ”กลับบ้านแสดงถึงพฤติกรรมทำลาย ปท. ชี้ปิดวอยซ์ทีวีเป็นชะตากรรมนักสู้เสื้อแดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลับบ้านเลวร้าย ทำอวดศักดายิ่งใหญ่คับเมือง แต่ทำลายระบบประเทศยับเยินทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และมโนคุณธรรม ปชช. ชี้ปิดวอยซ์ทีวีเป็นชะตากรรมนักสู้เสื้อแดง โชว์สันดานเจ้าของเงินเมื่อได้สิ่งสมปองย่อมไม่แคร์ความสัมพันธ์มนุษย์ต่อมนุษย์ เชื่อปิดไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ เหตุทีวีการเมืองรู้ว่า ไม่มีกำไรตั้งแต่ตั้งต้นแล้ว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์สะท้อนว่า การทำดีลให้นักโทษทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านได้แสดงถึงพฤติกรรมทำลายประเทศอย่างน้อย 4 กรณีสำคัญ คือ ไม่เคารพต่อพระบรมราชโองการ ทำลายกระบวนการยุติธรรมย่อยยับ นอกจากนี้ที่มาของรัฐบาลเป็นการทำลายการเมือง ต่ำทราม ตระบัดสัตย์ ผิดวาจา ไม่เป็นไปตามรับปากไว้กับประชาชน แล้วยังจะลามไปถึงการทำลายเศรษฐกิจด้วยระบบดิจิทัลวิลเล็ต

นายจตุพร ระบุว่า พฤติกรรมของคนพวกไปดีลกัน จึงแสดงถึงต้องการอวดศักดายิ่งใหญ่คับเมือง ดังนั้น ใครไปทำหน้าที่ดีลให้กลับประเทศต้องรู้ว่า สิ่งเหล่านี้กำลังกระทบอย่างกว้างขวางและท้าทายมโนธรรมสำนึกของประชาชน

“แม้ไปโรงแรมโรสวูดผ่านมาหนึ่งวันจึงแถลงทักษิณไม่ได้ไป ปัญหามีว่า ทั้ง (นายเศรษฐา ทวีสิน) นายกฯ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รองนายกฯ และเลขาธิการนายกฯ ก็อยู่ในทำเนียบรัฐบาล ถ้าจะคุยกันย่อมทำได้สะดวกอยู่แล้ว จะนั่งรถหลวงมากินข้าวที่โรงแรมทำไมเหรอ”

นายจตุพร กล่าวว่า อะไรที่มากไปแม้จงใจหรือไม่ก็ตาม แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นยิ่งมากไปกว่าการจงใจเสียอีก ทั้งที่ความเลวร้ายของดีลได้ทำลายประเทศย่อยยับ เพราะการดีลอันเลวร้ายนี้ได้สร้างศัตรูสมมติขึ้นมาทำลายหลอกๆ กัน

อีกทั้งการดีลนั้น ผู้ดีลไม่สามารถควบคุมได้เลย ยิ่งจัดตั้งรัฐบาลแสดงถึงความใหญ่สุดไม่เป็นไปตามข้อตกลง แต่เมื่อนายกฯ ไม่มาควบกลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ จึงไม่ได้เป็น รมช. ดังนั้น นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม จึงเป็นที่ต้องการของทหาร เนื่องจากไม่มีพิษภัยกับเหล่าทัพ แล้วรอดจากถูกปรับออกจากรัฐบาล

ส่วนดิจิทัลวอลเล็ต นายจตุพร กล่าวว่า การพูดนำเงิน ธกส.มาทดลองใช้ไปก่อน แสดงถึงการหลอกลวงประชาชนเพราะเนื้อแท้คือ การกู้เงินอยู่ดี เนื่องจากต้องนำเงินงบประมาณมาใช้คืน และงบประมาณก็ต้องกู้มา อย่างไรก็ตาม โครงการนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่ต้น ประเทศจึงได้ไม่คุ้มเสีย

อีกอย่าง เมื่อกลุ่มทุนลงทุนผลิตสินค้าเพียง 35% อีก 65% เป็นส่วนต่างที่ไร้ประโยชน์ของประเทศ แต่ประชาชนต้องแบกหนี้เงินกู้ 5 แสนล้านถึง 3 เท่าตัว ดังนั้น ถ้าอนุมัติให้โครงการเริ่มทำจริง ไม่ใช่การสนับสนุนเชิงหลักการแล้ว ศึกดิจิทัลจะไม่จบลงง่ายๆ

"การคิดแบบนี้แสดงถึงไม่รับผิดชอบปลายทาง เมื่อเงินเข้าไปอยู่ในงบประมาณขาดดุล การชำระหนี้จึงไม่มีเวลาเสร็จสิ้น ดังนั้นดอกเบี้ยจะทบต้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่ชาวบ้านได้เพียงสินค้าอุปโภคพวก สบู่ ยาสีฟัน ไข่ไก่ และบะหมี่สำเร็จรูป ส่วนประเทศได้หนี้ กลุ่มทุนได้โอกาสดูดเงินงบประมาณ เข้าคลังสมบัติร่ำรวย”

พร้อมกล่าวว่า ผู้ว่าแบงก์ชาติทำหนังสือคัดค้านดิจิทัล แม้ต้องเจอเสียงข่มขู่จากรัฐบาลจะปลดออก แต่ไม่เกรงกลัวเพราะทำหน้าที่เพื่อชาติ และไม่หวั่นต่อเสียงขู่ ที่สำคัญกลับได้รับเสียงเชียร์สนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากด้วยเสียอีก

นายจตุพร กล่าวถึงการปิดวอยซ์ทีวีว่า ไม่ได้เป็นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะการตั้งทีวีการเมืองไม่ได้มีกำไรตัวเงินมาตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว เพราะกำไรคือผลทางการเมือง ดังนั้น จึงเป็นชะตากรรมของทีวีเสื้อแดงทุกช่อง เมื่อต่อสู้ทางการเมืองก็เป็นคนน่ารัก แต่เมื่อชนะกลับถูกมองว่าอุบาทว์ที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าของเงินได้ทุกอย่างที่สมปองแล้ว ที่เหลือต้องทิ้งขวางเป็นธรรมดา ซึ่งเป็นสันดานของเจ้าของสื่อรายนี้

"สันดานคนพวกนี้ เขาไม่แคร์หรอก คนเสื้อแดงตายเป็นร้อย บาดเจ็บร่วมสองพัน เขายังไม่แคร์เลย เพราะหลักคิดของพวกเขาไม่ได้คำนึงถึงความรักที่ประชาชนมอบให้และร่วมต่อสู้ สละชีวิต ดังนั้นการไม่แคร์จึงเป็นการอธิบายถึงความไม่รับผิดชอบต่อประชาชน"

นายจตุพร กล่าวว่า คนพวกนี้จะคิดแบบแบ่งการทำงานเป็นตอนๆ ไป คิดแต่จะกลับบ้านก็เลือกใช้งานเป็นอย่างๆไป ไม่มีความผูกพันแบบมนุษย์กับมนุษย์ จึงไร้ความสัมพันธ์ เอาแต่พูดตัดเยื่อใย โกหกประชาชน และไม่สนใจในวิธีการได้อำนาจมา

รวมทั้งกังขาทหารสหรัฐออกจากเรือขึ้นบกแหลมฉบังเที่ยวพัทยาว่า อยู่ดีๆ หลายพื้นที่ทำสงคราม รบพุ่งยิงถล่มด้วยอาวุธร้ายแรงต่อกัน แต่ทหารสหรัฐกลับขึ้นบกเที่ยวสนุกสนาน ไทยประโคมเศรษฐกิจสะพัดด้วยเงินนับร้อยล้านจึงไม่ใช่ธรรมดา แต่อาจถูกจับตามมองจากประเทศที่ทำสงครามกัน ดังนั้น ผู้นำประเทศต้องชี้แจงประชาชนให้รับรู้ถึงความมั่นคงของประเทศท่ามกลางการขยายตัวของสงครามที่เป็นสถานการณ์ละเอียดอ่อนยิ่งเช่นนี้

ประเทศไทยต้องมาก่อน