ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุดในวันนี้ (11 เม.ย.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัว 4.9% ทั้งในปี 2567 และ 2568
รายงานของ ADB ระบุว่า แม้สภาพแวดล้อมในต่างประเทศยังคงไม่แน่นอน ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่แนวโน้มโดยรวมของเศรษฐกิจเอเชียยังคงเป็นบวก
นายอัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวว่า การที่ประเทศส่วนใหญ่ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย
ADB คาดว่าเศรษฐกิจในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในภูมิภาค พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วยการเดินหน้ายกระดับด้านการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดน รวมทั้งเครือข่ายอุปทานสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ ADB ยังคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับตัวลงสู่ระดับ 3.2% ในปี 2567 จากระดับ 3.3% ในปี 2566 และคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3% ในปี 2568
อย่างไรก็ตาม รายงานของ ADB ได้เตือนเกี่ยวกับความท้าทายหลายด้านที่จะมีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยระบุว่าเศรษฐกิจเอเชียมีความเปราะบางต่อสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้ง ซึ่งจะส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานเผชิญกับภาวะชะงักงัน และทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอีก
ADB ระบุด้วยว่า หนี้สาธารณะในหลายประเทศเริ่มทรงตัวหลังจากมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ตัวเลขหนี้สินดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาด