หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 5 ต่อ 2 เสียง ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนหน้า โดย 5 เสียง เห็นควรให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% และอีก 2 เสียง เห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้ายังขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงินในระยะข้างหน้าเป็นสำคัญ โดยยังคงต้องติดตามแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และสิงหาคม 2567 ยังคงมีอยู่
เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.67) ค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ราว 36.3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากราคาปิดตลาดเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.67) ที่ระดับ 36.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาล่าสุด ประกอบกับมติคงดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.
กรรมการส่วนใหญ่ของ กนง.มองว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงเห็นว่านโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีศักยภาพขยายตัวต่ำลง นอกจากนี้ กนง. ยังส่งสัญญาณให้น้ำหนักต่อเสถียรภาพระบบการเงิน รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาท
กนง. ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงจาก 3.2% ในการเผยแพร่ประมาณการเดือนพฤศจิกายน 2566 อยู่ที่ 2.6% ขณะที่ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อปี 2567 ลงจาก 2.0% มาอยู่ที่ 0.6%