นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยกล่าวถึงแหล่งเงิน เงื่อนไข และระยะเวลา ดังนี้
แหล่งเงินจำนวน 5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1 บริหารจัดการงบประมาณ 22567 จำนวน 175,000 ล้าน
2 งบประมาณปี 2568 จำนวน 152,700 ล้าน
3 172,300 ล้าน ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ดูแลกลุ่มเกษตร
ทั้งนี้ เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะถึงมือประชาชน ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 โดยให้สิทธิ์ประชาชน 50 ล้านคน วงเงิน 5 แสนล้าน ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และกรอบวินัยการเงินการคลัง และต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคนนั้น ตามเงื่อนไขคือ ต้องอายุเกิน 16 ปี เงินเดือนรวมไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี และมีเงินฝาก ไม่เกิน 5 แสนบาท
ส่วนเงื่อนไขการใช้จ่ายนั้น ระดับอำเภอ ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น การใช้จ่ายร้านค้ากับร้านค้า ไม่มีข้อกำหนดเรื่องพื้นที่ ใช้จ่ายได้หลายรอบ และสินค้าทุกประเภทใช้ได้ ยกเว้น อบายมุข น้ำมัน บริการออนไลน์
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จะนำมติของที่ประชุมฯ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
แหล่งเงินจำนวน 5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1 บริหารจัดการงบประมาณ 22567 จำนวน 175,000 ล้าน
2 งบประมาณปี 2568 จำนวน 152,700 ล้าน
3 172,300 ล้าน ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ดูแลกลุ่มเกษตร
ทั้งนี้ เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะถึงมือประชาชน ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 โดยให้สิทธิ์ประชาชน 50 ล้านคน วงเงิน 5 แสนล้าน ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และกรอบวินัยการเงินการคลัง และต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคนนั้น ตามเงื่อนไขคือ ต้องอายุเกิน 16 ปี เงินเดือนรวมไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี และมีเงินฝาก ไม่เกิน 5 แสนบาท
ส่วนเงื่อนไขการใช้จ่ายนั้น ระดับอำเภอ ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น การใช้จ่ายร้านค้ากับร้านค้า ไม่มีข้อกำหนดเรื่องพื้นที่ ใช้จ่ายได้หลายรอบ และสินค้าทุกประเภทใช้ได้ ยกเว้น อบายมุข น้ำมัน บริการออนไลน์
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จะนำมติของที่ประชุมฯ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป