ปทส.รวบสาวรับเปิดบัญชีม้าโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม น.ส.อร (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดแม่สอด ลงวันที่ 20 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง และเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด และเปิด หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิใช่เจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นยินยอมใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนทั้งนี้โดยประการที่รู้ หรือควรจะรู้ว่านำไปใช้ในการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่น" โดยจับได้ที่บริเวณปากซอยศรีเพชรการเคหะ 13 ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 คนร้ายนำบัญชีธนาคารของ นางสาวอร (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาไปก่อเหตุ โดยการโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร แล้วแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำผิดฐานฟอกเงิน และแจ้งว่าเป็นผู้ต้องสงสัยแต่ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดที่ผู้เสียหายมีเพื่อทำการตรวจสอบ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จึงโอนเงินตามบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาแจ้ง จำนวนประมาณ 350,000 บาท ซึ่งเป็นบัญชีของ นางสาวอร (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้ต้องหาพักอาศัยย่าน ซอยศรีเพชรการเคหะ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสามารถจับกุมนางสาวอรสินีฯ ได้ที่บริเวณดังกล่าว จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.แม่สอด ดำเนินคดีต่อไป

​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.อรสินีฯ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อปลายปี 2566 ผู้ต้องหาได้เห็นโพสต์ชักชวนทางเฟซบุ๊กให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยให้ค่าตอบแทนในการเปิดบัญชีธนาคารสูง ประกอบกับในช่วงเวลานั้นผู้ต้องหาติดการพนันจำเป็นต้องการใช้เงิน ผู้ต้องหาเกิดความสนใจและได้ติดต่อเฟซบุ๊กดังกล่าวเพื่อเปิดบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่น จำนวน 4 บัญชี ซึ่งผู้ต้องหาไม่ทราบว่าคนร้ายนำบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดให้ไปทำอะไร โดยได้รับค่าตอบแทนในราคา 500-1000 บาท