ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ทำลายสถิติต่อไป! คนในเรือนจำยังเพิ่มพุ่ง 46 คน เป็นคดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ รัฐไม่ตอบสนอง
ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน
โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาศาลยังไม่มีคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องขังแม้แต่คนเดียว แม้ว่าจะมีผู้อดอาหารประท้วงทั้ง 4 คนมีอาการน่าเป็นกังวลมากก็ตาม ขณะเดียวกันก็มีคนถูกขังเพิ่มอีก 4 คน ทำให้ยอดคนในเรือนจำจาก 42 คน ในช่วงต้นเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 46 คนแล้วหลังผ่านไป 1 เดือน
ในจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 46 คน แบ่งได้เป็นการถูกขังระหว่างสู้คดี 28 คน ถูกขังคดีสิ้นสุดแล้ว 16 คน และเป็นการถูกขังแทนการพิพากษาของศาลเยาวชนฯ ที่บ้านเมตตา 2 คน
จำนวนผู้ต้องขังการเมืองยังคงมีมากขึ้นและทำลายสถิติอยู่ต่อไป นับตั้งแต่ยอดรวมได้แตะตัวเลข 40 คน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2567 ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนผู้ต้องขังการเมืองที่ ‘มากที่สุด’ ในรอบอย่างน้อย 4 ปี
สถานการณ์ไม่ได้ประกันตัว
เดือนที่ผ่านมายังไม่มีผู้ต้องขังคดีการเมืองคนใดได้รับการประกันตัวจากศาลเลย แม้กระทั่งกรณีของ “ตะวัน” ทานตะวัน และ “แฟรงค์” ณัฐนนท์ ที่กำลังอดอาหารประท้วงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งญาติและทนายความได้ยื่นประกันตัวไปถึง 7 ครั้งด้วยกัน ขณะเดียวกันก็มีผู้ต้องขังเพิ่มอีก 4 คน ได้แก่
“นารา” อนิวัต - ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดี หลังจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 ถูกอัยการสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 จากการโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อปี 2563 ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ในคดีส่วนตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2566 นับเป็นคดีที่ 2 ที่เธอถูกกล่าวหา
“ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ - ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา ในคดีมาตรา 112 หลังจากเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
นภัส (สงวนนามสกุล) - ระหว่างถูกขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีในคดีส่วนตัว เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 15 วัน ในคดีที่ถูกตำรวจตรวจพบระเบิดปิงปอง ภายหลังการชุมนุม #10สิงหาคาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว นภัสจึงถูกขังในคดีนี้อีกคดีหนึ่งในฐานะนักโทษเด็ดขาด
พรชัย วิมลศุภวงศ์ - ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ระหว่างรอคำสั่งประกันตัวจากฎีกา หลังจากวันที่ 4 เม.ย. 2567 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนจำคุก 12 ปี ในคดีมาตรา 112 กรณีถูกฟ้องว่าโพสต์เฟซบุ๊ก 4 ข้อความ เมื่อปี 2563
การถูกคุมขังโดยไม่ได้สิทธิประกันตัวต่อเนื่องยาวนาน ทำให้ผู้ต้องขังระหว่างสู้คดีถูกคุมขังเป็นเวลานานเกิน 1 ปีแล้วถึง 3 คนด้วยกัน ได้แก่ “ธี” ถิรนัย และ “มายด์” ชัยพร ถูกขังคนละ 415 วัน และ “วุฒิ” ถูกขัง 378 วัน ส่วนผู้ต้องขังการเมืองอีก 10 คนถูกขังเกิน 200 วัน และมี 7 คนถูกขังเกิน 100 วันแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมาผู้ต้องขังระหว่างสู้คดีบางคนที่ถูกขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวเป็นเวลานาน ปัจจุบันคดีได้ถึงที่สุดแล้ว ทำให้พวกเขาได้เปลี่ยนสถานภาพไปเป็น ‘นักโทษเด็ดขาด’ แล้ว อย่างน้อย 3 คน ได้แก่ เวหา แสนชนชนะศึก (คดีมาตรา 112), สมบัติ ทองย้อย (คดีมาตรา 112) และ “มาร์ค” (คดีครอบครองวัตถุระเบิด)
4 ผู้อดอาหารประท้วงนานหลัก ‘เดือน’ ยังถูกขังต่อ ไร้แววได้ประกัน ไร้การตอบรับจากรัฐ
ผู้ต้องการเมืองจำนวน 4 คนที่อดอาหารประท้วงในตอนนี้ ได้แก่ “บุ้ง” เนติพร (69 วัน), “ตะวัน” ทานตะวัน (51 วัน) “แฟรงค์” ณัฐนนท์ (51 วัน) และ “บัสบาส” มงคล (38 วัน)
ข้อเรียกร้องของพวกเขาส่วนหนึ่งเรียกร้องต่อฝ่ายบริหารโดยตรง เช่น ไทยไม่สมควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ข้อเรียกร้องส่วนหนึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายตุลาการ เช่น ปล่อยผู้ต้องขังการเมือง คืนสิทธิประกันตัว แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ‘ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับ’ ข้อเรียกร้องจากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ช่วงการประท้วงที่ผ่านมาญาติและทนายความยื่นประกันตัว “ตะวัน” และ “แฟรงค์” ไปทั้งหมด 7 ครั้งแล้ว แต่ศาลยังคงยืนยันคำสั่งไม่ให้ประกันตัว และเมื่อครบฝากขังในชั้นสอบสวน 48 วัน ตามกฎหมายทั้งสองก็ถูกอัยการสั่งฟ้องและทำให้ถูกคุมขังต่อทันทีในระหว่างพิจารณาคดี
ปัจจุบันบุ้งและตะวันอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ส่วนแฟรงค์ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่ถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลนอกกำกับของราชทัณฑ์ แม้ว่าญาติจะพยายามประสานและขอย้ายไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มาแล้ว 1-2 ครั้งก็ตาม ส่วนบัสบาสยังคงถูกคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงรายดังเดิม
เตรียมปล่อยตัว “ปริทัศน์” ผู้ต้องขัง ม.112 วันที่ 9 เม.ย. นี้
ในเดือน เม.ย. นี้ มีผู้ต้องขังการเมืองคดีถึงที่สุดแล้ว 1 คนมีกำหนดได้รับปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากจะถูกคุมขังจนครบโทษตามคำพิพากษาแล้ว นั่นคือ “ปริทัศน์” (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ซึ่งถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 2565 หลังจากศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน
ปริทัศน์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ก่อนถูกคุมขังในคดีนี้ประกอบอาชีพรับจ้างพิมพ์งานมาก่อน โดยคดีของเขาว่าจ้างทนายความส่วนตัวในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย
ระหว่างที่ปริทัศน์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำและคดีได้สิ้นสุดลงแล้วนั้น เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 ทนายความได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่ามีผู้ต้องขังรายหนึ่งถูกขังด้วยข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 ทนายความจึงได้ติดต่อขอเข้าเยี่ยมเบื้องต้น โดยนอกจากปริทัศน์แล้วยังมีผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ที่คดีสิ้นสุดแล้วถูกคุมขังอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ติดต่อมาที่ศูนย์ทนายฯ
ปัจจุบันปริทัศน์ถูกคุมขังมาใกล้จะครบโทษ 1 ปี 6 เดือนแล้ว โดยจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในช่วงเช้าของวันที่ 9 เม.ย. นี้
สถานการณ์เจ็บป่วยในเรือนจำ
ผู้ต้องขังการเมืองจำนวนหนึ่งยังคงเผชิญกับอาการเจ็บป่วยในเรือนจำ ทั้งจากโรคประจำตัวและจากสภาพแวดล้อมที่มีสุขอนามัยไม่ดีนักเป็นตัวกระตุ้นเร้าให้เกิดความเจ็บป่วย
“ขนุน” สิรภพ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - มีเลือดกำเดาไหลอย่างไม่ทราบสาเหตุ และมีผดผื่นขึ้นตามร่างกาย จากโรคภูมิแพ้ ซึ่งคาดว่าเกิดจากสุขอนามัยในเรือนจำที่ไม่ดีและได้ซักผ้าด้วยน้ำที่ไม่สะอาด
“น้ำ” วารุณี ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง - ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar)
กัลยา ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส - อาการจากโรคลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงมากขึ้น โดยตอนนี้ขาข้างขวาบวมใหญ่กว่าข้างซ้าย เมื่ออากาศหนาวทำให้รู้สึกยิ่งเจ็บที่ขา นั่งเป็นเวลานานไม่ได้ แม้ว่าจะถูกพาตัวไปตรวจและหาวิธีรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง แต่พบปัญหาว่าไม่มีแพทย์เฉพาะทาง
“บุ๊ค” ธนายุทธ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - มีผื่นขึ้นตามร่างกายในช่วงกลางวันที่อากาศร้อน อบอ้าว และอากาศในเรือนจำไม่ถ่ายเท
ผู้ต้องขังหลายคนเผชิญกับอาการเจ็บป่วย เป็นไข้หวัด มีไข้ขึ้นสูง ไอ และเจ็บคอ จำนวนหนึ่งได้หายเป็นปกติแล้ว คาดว่าเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อคนหนึ่งเป็นไข้หวัดแล้วก็จะแพร่ให้ผู้อื่นโดยง่ายในสภาพเรือนจำที่แออัด