ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และสหประชาชาติ รายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในช่วง 4 เดือนแรกของสงครามกาซาสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 678,000 ล้านบาท) ตามรายงานฉบับนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหายในเชิงโครงสร้างพื้นฐานของกาซา รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของประชาชนบนแผ่นดินแคบๆ ที่ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ผู้คนอดอยาก และงานบรรเทาทุกข์ยังคงเผชิญอุปสรรคขัดขวาง
ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานนั้นกระทบไปทุกภาคส่วน โดยร้อยละ 72 เป็นต้นทุนด้านที่อยู่อาศัย ขณะที่อีกร้อยละ 19 คิดเป็นความเสียหายในด้านบริการสาธารณะ เช่น ระบบประปา สาธารณสุข และการศึกษา เป็นต้น
เวิลด์แบงก์ระบุว่า สงครามครั้งนี้ทำให้ประชากรกาซากว่า 1 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และร้อยละ 75 กลายเป็นคนพลัดถิ่น ขณะที่ผู้คนกว่าครึ่งกำลังเสี่ยงเผชิญวิกฤตความอดอยาก (famine) และทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหาร (food insecurity) และภาวะทุพโภชนาการ (malnutrition) ขั้นรุนแรง และในส่วนของเด็กเล็กนั้นคาดว่าจะมีผลต่อพัฒนาการของพวกเขาไปตลอดชีวิต
การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว และสังหารประชาชนชาวอิสราเอลไปราว 1,200 คน รวมถึงจับตัวประกันอีก 253 คน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามแก้แค้นที่คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซาไปแล้วมากกว่า 32,000 คน ประชากรในฉนวนกาซาเกือบทั้งหมดจาก 2.3 ล้านคน ต้องอพยพหนีภัยสงคราม เผชิญภาวะอดอยาก และทำให้อิสราเอลเองถูกกล่าวหาว่ามีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์
านผู้นำอิสราเอลยังเรียกร้องให้ฮามาสยุติสงครามพร้อมปลดปล่อยตัวประกันในกาซาทั้งหมด และส่งตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม มารับโทษ