บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลักของประเทศได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) เตรียมรับนักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 คาดว่าในช่วง ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานของ AOT ทั้ง 6 แห่ง กว่า 2.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 46.00% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 962,362 คน เพิ่มขึ้น 6.59% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 15,113 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 16.71% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 8,682 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 32.53% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 6,431 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 0.52%
โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 1.34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.73% และมีเที่ยวบินประมาณ 7,022 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 21.13% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสารประมาณ 625,530 คน เพิ่มขึ้น 14.83% และมีเที่ยวบินประมาณ 4,117 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.58%
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสารประมาณ 199,563 คน เพิ่มขึ้น 34.83% และมีเที่ยวบินประมาณ 1,152 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.96% ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสารประมาณ 41,318 คน เพิ่มขึ้น 16.71% และมีเที่ยวบินประมาณ 281 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 18.07% ท่าอากาศยานภูเก็ต.มีผู้โดยสารประมาณ 355,501 คน เพิ่มขึ้น 31.97% และมีเที่ยวบินประมาณ 2,161 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 24.77% ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสารประมาณ 53,894 คน ลดลง 6.92% และมีเที่ยวบินประมาณ 380 เที่ยวบิน ลดลง 0.52%
นอกจากนี้ ได้จัดที่จอดรถยนต์ฟรี ณ บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน D.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2567 และที่ท่าอากาศยานดอนเมือง สามารถจอดรถยนต์ฟรีได้ที่บริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า 2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2567 สามารถจอดรถยนต์ได้ 250 คัน พร้อมจัดเตรียมรถรับส่งให้บริการระหว่างจุดจอดรถไปยังอาคารผู้โดยสาร นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ AOT เตรียมความพร้อมดำเนินการในทุกมิติ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้บริการผู้โดยสารในท่าอากาศยาน เช่น สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ผู้ประกอบการที่ให้บริการภาคพื้น เป็นต้น จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้เพียงพอ ประสานบริษัทผู้รับจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าเตรียมความพร้อมพนักงาน และรถเข็นกระเป๋าให้พร้อมบริการผู้โดยสารตลอดเวลา และให้เพิ่มความถี่ในการจัดเก็บรถเข็นกระเป๋าให้เร็วขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือสายการบินให้เปิดใช้งานเคาน์เตอร์ให้ครบตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรร
ขณะเดียวกัน ให้จัดเจ้าหน้าที่ Airport Help คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในด้านต่างๆ เช่น แนะนำการใช้เครื่อง CUSS (Common Use Self Service) สำหรับเช็กอินด้วยตนเอง หรือเครื่อง CUBD (Common Use Bag Drop) สำหรับโหลดสัมภาระด้วยตนเอง รวมไปถึงช่วยดูแลเรื่องการจัดแถวของผู้โดยสาร ทั้งในพื้นที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนด้านระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งขณะนี้ที่ ทสภ. ทดม. ทชม.และ ทภก.ได้มีการเปิดให้บริการรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grab Application เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในท่าอากาศยาน
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ท่าอากาศยานของ AOT จะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวก และศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง จัดให้มีโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย และโครงการท่าอากาศยานสีขาว ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อาจมีผู้ใช้บริการสนามบินจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ที่อาจมีรถหนาแน่นบริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก AOT จึงได้กำหนดให้รถแท็กซี่สาธารณะทุกคันใช้ช่องทาง PASSENGER DROP LANE พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารบริเวณช่องทาง PASSENGER DROP LANE ประตู 16 และ 17 ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นรถแท็กซี่สาธารณะที่มีผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ หรือต้องการใช้ รถวีลแชร์ หรือนำรถวีลแชร์มาด้วยให้ส่งผู้โดยสารที่บริเวณประตูหมายเลข 5 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ขาออก) อาคาร 1 ทดม.
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำผู้โดยสารที่ต้องการความรวดเร็วในขั้นตอนการเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระใช้บริการเครื่อง CUSS และ CUBD ซึ่งใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่ต้องรอต่อแถวเช็กอินที่เคาน์เตอร์ และสำหรับในขั้นตอนตรวจค้น ขอแนะนำผู้โดยสารปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง ขอความร่วมมือผู้โดยสารตรวจสอบให้บรรจุภัณฑ์มีข้อความระบุปริมาตรที่ชัดเจน และไม่เกิน 100 มิลลิลิตร จำนวนรวมไม่เกิน 10 ชิ้น หากมีบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวเกินกำหนดจะต้องนำไปโหลดใต้ท้องเครื่อง
สำหรับแบตเตอรีลิเธียมสำรองขนาดเล็กที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh หรือ 20,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรีลิเธียมสำรองขนาดกลางที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 ถึง 160 Wh หรือ 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรีลิเธียมสำรองขนาดใหญ่ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินและโหลดใต้ท้องเครื่องบิน นอกจากนี้ แบตเตอรีลิเธียมสำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าวัตต์ – ชั่วโมง (Wh) หรือระบุขนาดบรรจุของลิเธียม หรือระบุไม่ชัดเจนไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน หรือโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยทำให้ขั้นตอนการตรวจค้นรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อาจมีผู้โดยสารเดินทางจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน โดยสามารถสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินและการบริการได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง