นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เรียก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ร่วมแถลงหลังการประชุมแก้ปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ว่า ตามข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีข้อสั่งการให้แก้ปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ภายใน 30 วัน รวมถึงการปราบปราม อาชญากรรมออนไลน์ ทุกรูปแบบ ประกอบกับมีการอภิปราย หลายประเด็นในเรื่องดังกล่าว จึงให้มีการประชุมในวันนี้
ทั้งนี้ สรุปว่า 1.การกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ กระทรวงดีอี จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกวาดล้างซิมม้า บัญชีม้า โดยจะมีการประชุมหน่วยงานทั้งหมด ในวันที่ 9 เมษายนนี้
2. ที่ประชุมได้มีแผนแก้ปัญหา การซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ตรงปก โดยจะให้มีการชะลอการจ่ายเงิน ให้ผู้ซื้อได้ตรวจสอบสินค้าก่อน และจะให้ กลต.เข้ามาดูเรื่องการโอนเงิน ให้เป็นแบบคริปโทเคอร์เรนซี และดูระเบียบการส่งข้อมูลเอสเอ็มเอส เพราะหลายอย่างเกี่ยวกับข้อมูลมิจฉาชีพ
3.จะมีการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ เกี่ยวกับการเปิดบัญชีออนไลน์ เพราะบัญชีม้าส่วนใหญ่ เป็นบัญชีออนไลน์ บางคนเปิดถึง 20 บัญชี ก็ต้องกำหนด หากใครเปิดบัญชีเกินความจำเป็น ต้องมีการตรวจสอบ
4.การตัดเสาสัญญาณ บริเวณชายแดน ที่ต้องร่วมมือกัน ระหว่าง กสทช. ตำรวจ ทหาร และกระทรวงดีอี ในการกวาดล้างบริเวณชายแดนทั้งหมด แต่ปัจจุบันยังพบเสาสัญญาณอยู่ แม้จะดำเนินการในเบื้องต้นไปแล้ว แต่ปรากฏว่ามีเสาเถื่อน ตั้งขึ้นมาแทน โดยหลังจากนี้ จะไปสํารวจแนวชายแดนทั้งหมด และให้เจ้าหน้าที่ทหาร และตํารวจมาช่วย และในวันที่ 9 เมษายนนี้ จะเชิญทางโอเปอเรเตอร์ มาพูดคุยด้วย หากพบการลักลอบใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตผิดกฎหมาย จะดำเนินการตัดสัญญาณทันที
5. จะประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงประเทศจีน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว และให้ สอท.รายงานแผนการทุกสัปดาห์ ให้กระทรวงดีอีรับทราบ ยืนยันว่า หากพบเจ้าหน้าที่ร่วมกันกระทำความผิด มีผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง จะดำเนินการทางคดีอาญา และวินัยอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ สรุปว่า 1.การกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ กระทรวงดีอี จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกวาดล้างซิมม้า บัญชีม้า โดยจะมีการประชุมหน่วยงานทั้งหมด ในวันที่ 9 เมษายนนี้
2. ที่ประชุมได้มีแผนแก้ปัญหา การซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ตรงปก โดยจะให้มีการชะลอการจ่ายเงิน ให้ผู้ซื้อได้ตรวจสอบสินค้าก่อน และจะให้ กลต.เข้ามาดูเรื่องการโอนเงิน ให้เป็นแบบคริปโทเคอร์เรนซี และดูระเบียบการส่งข้อมูลเอสเอ็มเอส เพราะหลายอย่างเกี่ยวกับข้อมูลมิจฉาชีพ
3.จะมีการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ เกี่ยวกับการเปิดบัญชีออนไลน์ เพราะบัญชีม้าส่วนใหญ่ เป็นบัญชีออนไลน์ บางคนเปิดถึง 20 บัญชี ก็ต้องกำหนด หากใครเปิดบัญชีเกินความจำเป็น ต้องมีการตรวจสอบ
4.การตัดเสาสัญญาณ บริเวณชายแดน ที่ต้องร่วมมือกัน ระหว่าง กสทช. ตำรวจ ทหาร และกระทรวงดีอี ในการกวาดล้างบริเวณชายแดนทั้งหมด แต่ปัจจุบันยังพบเสาสัญญาณอยู่ แม้จะดำเนินการในเบื้องต้นไปแล้ว แต่ปรากฏว่ามีเสาเถื่อน ตั้งขึ้นมาแทน โดยหลังจากนี้ จะไปสํารวจแนวชายแดนทั้งหมด และให้เจ้าหน้าที่ทหาร และตํารวจมาช่วย และในวันที่ 9 เมษายนนี้ จะเชิญทางโอเปอเรเตอร์ มาพูดคุยด้วย หากพบการลักลอบใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตผิดกฎหมาย จะดำเนินการตัดสัญญาณทันที
5. จะประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงประเทศจีน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว และให้ สอท.รายงานแผนการทุกสัปดาห์ ให้กระทรวงดีอีรับทราบ ยืนยันว่า หากพบเจ้าหน้าที่ร่วมกันกระทำความผิด มีผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง จะดำเนินการทางคดีอาญา และวินัยอย่างเด็ดขาด