เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ระบุว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องด่วน ที่เป็นเรื่องความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา (FTA ไทย – ศรีลังกา) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้อภิปรายสนับสนุน FTA ไทย - ศรีลังกา ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
โดย นายจุรินทร์ กล่าวว่า FTA ฉบับนี้ได้เริ่มเจรจาครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2561 แต่ชะงักไป ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากสถานการณ์ภายในประเทศศรีลังกา รวมทั้งเกี่ยวพันกับสถานการณ์โควิด – 19 ในระยะเวลาที่ผ่านมาด้วย แต่การเจรจากลับมาเริ่มต้นอีกครั้งในปี 2566 โดยมีการเร่งรัดการเจรจาจนนำไปสู่การลงนามในวันที่ 3 ก.พ. 2567 โดยผลจากการทำ FTA ฉบับดังกล่าวทำให้ประเทศไทยมี FTA เพิ่มขึ้นเป็น 15 ฉบับ และมีจำนวนประเทศที่ไทยได้ทำ FTA ด้วยเพิ่มขึ้นเป็น 19 ประเทศ อันจะเป็นผลดีในการช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับศรีลังกา แม้เมื่อเทียบสัดส่วนที่ไทยทำการค้ากับโลกจะไม่มาก แต่ก็เชื่อว่าจะทำให้ตัวเลขทางการค้าของไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้นายจุรินทร์ได้ฝากให้รัฐบาลได้เร่งรัด FTA อีก 3 ฉบับ ซึ่งอยู่ในแผนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์แล้ว และตนก็จะเป็นผู้หนึ่งที่จะสนับสนุนเรื่องนี้ต่อไป ซึ่ง FTA 3 ฉบับดังกล่าว ประกอบด้วย
1. FTA ไทย - สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) หากไทยสามารถลงนาม FTA ฉบับนี้ได้จะทำให้ตัวเลขจำนวนประเทศของไทยเพิ่มขึ้นทันทีจาก 19 ประเทศ เป็น 46 ประเทศ แม้ว่า FTA ฉบับนี้ได้เริ่มต้นมาหลายปีแล้ว แต่ก็ชะงักไปหลายปี โดยล่าสุดตนนำคณะไปเจรจากับรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีการค้าของสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ทำให้ประเทศไทยสามารถนับหนึ่งในการเปิดการเจรจา FTA ฉบับนี้ได้อีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 และต้องฝากให้รัฐบาลได้ตามเรื่องนี้ต่อไป
2. FTA ไทย - เอฟตา (4 ประเทศ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวิสแลนด์ ลิกเตนสไตน์) ฉบับนี้ตนได้นำคณะเดินทางไปที่ประเทศไอซ์แลนด์ และได้ร่วมกับรัฐมนตรีจากทั้ง 4 ประเทศ ประกาศว่าจะร่วมกันเริ่มต้นการเจรจาอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มิ.ย. 2565 FTA ฉบับนี้ หากประสบความสำเร็จ จะทำให้ไทยได้โอกาสมี FTA กับประเทศยุโรปเป็นฉบับแรก หาก FTA ไทย - สหภาพยุโรป ยังไม่แล้วเสร็จ
3. FTA ไทย - ยูเออี ฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประตูการค้าไปสู่ตะวันออกกลาง หากไทยสามารถทำ FTA กับ ยูเออี ได้สำเร็จ จะทำให้สินค้าไทยไหลผ่านยูเออีไปสู่ประเทศในตะวันออกกลาง รวมทั้งไปสู่ประเทศในกลุ่มอ่าวอาหรับด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และ FTA ฉบับนี้ ตน กับรัฐมนตรีพาณิชย์ของ ยูเออี ได้ร่วมกันประกาศการเจรจาอย่างเป็นทางการแล้ว ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566
ทั้งหมดนี้ตนหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วต่อไป เพื่อประโยชน์ของการค้าของประเทศ และประเทศคู่ค้า FTA ของเราต่อไป ซึ่งจะมีผลสำคัญในการที่ทำให้ไทยไม่ถูกทิ้งห่างจากเวียดนามมากนัก หากการเจรจา FTA ทั้ง 3 ฉบับบรรลุผลสำเร็จได้ เพราะจากการที่ไทยมี FTA 15 ฉบับ กับ 19 ประเทศ ก็จะทำให้ไทยมี FTA เพิ่มขึ้นเป็น 18 ฉบับ 51 ประเทศต่อไป