นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า จับตาระบอบทักษิณคืนชีพ ระวัง! กระบวนการยุติธรรมไทย?
หลังจากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 มีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว โดยมีดีลลับ หรือบิ๊กดีลเกิดขึ้น ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ระบอบทักษิณ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนั้น จนบัดนี้พบว่ามีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว คือ
1.คุณทักษิณโดนคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจับคุก 3 คดี โทษ 10 ปี กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลฎีกาฯมีคำสั่งนับโทษรวมเหลือ8ปี ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือโทษจำคุก 1 ปี ไม่ได้เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว
2.คดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกรวม6คน ในคดีจัดอีเวนต์โรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย งบ 240 ล้านบาท พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ
3.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับพวก ใช้อำนาจโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้นให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2554 ล่าสุดอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่อุทธรณ์คดี ทั้งที่ผู้เสียหายคือ นายถวิล เปลี่ยนสี มีความประสงค์ให้อุทธรณ์ เพื่อต้องการให้คดีจบสิ้นกระบวนความ ปราศจากข้อสงสัย
ส่วนคดีที่ต้องจับตากันต่อไป คือ
1.การสั่งคดีของสำนักงานอัยการสูงสุด ต่อคุณทักษิณ ชินวัตร ในคดีความผิดตามมาตรา 112 วันที่ 10 เมษายน 2567 ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่
2..การกลับประเทศเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยึดแนวทางทักษิณโมเดล หรือแนวทางพิเศษอื่นที่ไม่ต้องติดคุกเลยหรือไม่
3.การกลับประเทศไทย ของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่มีคดีค้างเก่าข้อหาอั้งยี่ และเคยต้องคดีความมาตรา 112 จะถูกดำเนินคดีอย่างไร มาตรฐานเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆหรือไม่
4.มีผู้ต้องหาหนีคดี หรือลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศจำนวนหนึ่ง อาจจะทยอยกลับสู่ประเทศไทย จะได้รับการปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรมอย่างไรหรือไม่
ขอให้สังคมได้จับตากันต่อไปว่า เมื่อระบอบทักษิณคืนชีพขึ้นมาแล้วนั้น จะทำให้กระบวนการยุติธรรมไทย บิดเบี้ยวหรือปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานหรือไม่