xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร”เชื่อก้าวไกลไม่รอดโดนยุบพรรค แนะเตรียมใจรอเหตุการณ์ข้างหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงศาล รธน.ไม่รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยไว้พิจารณา เพราะคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยื่นนั้น แตกต่างจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ร้องยุบพรรคก้าวไกล

โดยนายเรืองไกร ยื่นร้องยุบพรรคเพื่อไทย เป็นการร้องเฉพาะแถลงการณ์ของนายชัยเกษม นิติสิริ (เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2564) เกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีเดียว โดยไม่นำกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และอุ้งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และหลากหลายแกนนำได้ปราศรัยหาเสียงมาร่วมบรรยายฟ้องด้วย

ดังนั้น คำร้องของนายเรืองไกร จึงแตกต่างจากคำร้องยุบพรรคก้าวไกลในกรณีล้มล้างการปกครอง ซึ่ง กกต.บรรยายคำร้องเชื่อมโยงคนหลายคน โดยไม่ได้ร้องแบบแยกส่วนเป็นกรณีเหมือนคำร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย

นายจตุพร กล่าวว่า แม้ กกต.ยื่นคำฟ้องยุบพรรคก้าวไกล แต่ศาล รธน.ให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมอีกใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกล อย่าเพิ่งดีใจว่าจะรอดจากการยุบพรรค เพราะอย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว โดยมีโอกาสถูกยุบมากถึง 99 % เหลือ 1 % เป็นทางรอดเนื่องจากเขาไม่ต้องการจะยุบ

อีกทั้ง กล่าวว่า ถ้า ศาล รธน. มีคำสั่งรับพิจารณาคำร้องยุบพรรคของ กกต.แล้ว จะมีคำสั่งให้กรรมการบริหารและผู้เกี่ยวข้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องเตรียมรับมือ อย่างไรก็ตาม แม้ ศาล รธน.ยังไม่รับพิจารณาคำร้องยุบพรรคนั้น แต่ไม่มีอะไรเป็นเรื่องที่น่ายินดี

“สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้เป็นช่วงเปราะบางมากที่สุด หลังผ่านงบประมาณ 2567 แล้ว ต้องจับตาคำพูดต่างๆ จะนำไปสู่กามิกาเซกันหรือไม่ ซึ่งสามารถประเมินกันได้หลากหลาย อยู่ที่มุมมองของนักวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน”

นายจตุพร ระบุว่า หากสถานการณ์เดินหน้าไปถึงวัน สว.อภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ 25 มี.ค.นี้ และอภิปรายตรงเป้า เข้าประเด็น ได้เนื้อหาชัดเจน แล้วสถานการณ์ถูกลากไปถึงวันที่พรรคก้าวไกลอภิปรายทั่วไปตอกย้ำซ้ำอีก ในวันที่ 3-5 เม.ย.นี้ เงื่อนไขใหม่ย่อมเกิดขึ้นใหม่ได้ในอนาคต

นายจตุพร เชื่อว่า การอภิปรายทั่วไปของพรรคก้าวไกลจะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะถูกยุบพรรคและจะลากโยงไปถึง สส. 44 คนลงชื่อยื่นร่างกฎหมายแก้ ม.112 (เมื่อ 25 มี.ค.2564) จะถูกเล่นงานผิดจริยธรรมนักการเมือง หากผิดแล้วจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ซึ่งหนักกว่าโทษการยุบพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์การเมืองเพียง 10 ปีเท่านั้น

"ผมมีจุดยืนชัดเจนว่า ไม่ควรมีการยุบพรรค และไม่ควรตัดสิทธิ์ทางการเมืองในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอีกแล้ว" นายจตุพร ย้ำ

ประเทศไทยต้องมาก่อน