พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเข้ารายงานตัวต่อปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานจิตอาสา ซึ่งตนทำอยู่แล้ว โดยให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลชุมชนต่างๆ และจะเดินทางเข้ามาทำงานทุกวัน แต่ยังคงต้องเข้าเวรราชองครักษ์อยู่
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเราออกมาแล้ว ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดีขึ้น ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เราอยู่กันแบบพี่น้อง ซึ่งตนพยายามสร้างตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปรับตำแหน่งว่าเราจะทำบ้านให้เปลี่ยนแปลง แต่ออกมาในลักษณะนี้ นายกรัฐมนตรีจึงต้องเข้าไปจัดระเบียบ ตนเชื่อว่าในการบริหารราชการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารได้อย่างถูกต้อง ตนรับและยินดีอยู่แล้ว ไม่ได้คิดหรือกังวลอะไร อยู่ที่นี่ก็ดี เรื่องรับงานเอกสารตนก็ทำอยู่แล้ว ขออย่าห่วงว่าจะเครียดหรืออะไร
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อลุกมาแล้ว เรื่องของรักษาการ ผบ.ตร. จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อถามว่าหนังสือสั่งย้ายเมื่อวานนี้ใช้คำค่อนข้างรุนแรง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าเป็นหัวหน้าหน่วย ทำให้องค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้ เป็นความบกพร่อง เมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารต้องกำกับดูแลในส่วนนี้ ยอมรับสภาพ คนรู้ว่าตนก็คาใจอยู่ ที่ผ่านมาพยายามทำสภากาแฟให้พี่น้องได้มาคุยกัน เป็นพี่เป็นน้อง ไม่ใช่เจ้านาย ไม่ใช่หัวหน้า ซึ่งก็โอเคในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องมีการทำเอกสารชี้แจงคณะกรรมการ ที่ตั้งขึ้นมาสอบเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า หากมีการเรียก ก็พร้อมที่จะยื่นเอกสาร ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แม้อายุราชการจะเหลือน้อยก็ตาม จะช้าหรือเร็วอย่างไรก็ต้องลุก งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา
"วันนี้พี่ถอดหัวโขน อยู่แค่ตำแหน่ง ผบ.ตร. หัวโขนในการปฏิบัติหน้าที่ เราก็ถอดออก มานั่งที่นี่ก็ใส่หัวโขนที่นี่ โรงละครของเราเลิกแล้วก็เก็บฉาก เก็บเครื่องแต่งตัว ปิดไฟ หอบเสื่อกลับบ้านเราก็เท่านั้น ชีวิตเรามีเท่านี้ จะมาเครียดอะไร มาเร็วก็ต้องจากกัน ผมไม่เครียดหรอก ยืนยันไม่ช็อก เพราะรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว รู้ก่อนที่นายกฯจะเรียกเข้าพบ รู้ส่วนตัวอยู่แล้ว"
เมื่อถามย้ำว่าที่โดนคำสั่งย้ายครั้งนี้ เป็นเพราะจัดการเรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ศักดิ์ กล่าวว่า "ใช่" พร้อมยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น