นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ สว. กล่าวหานายกรัฐมนตรีเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศแต่ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ว่า สว. ชุดนี้มาจากการแต่งตั้ง อาจจะมองไม่รอบด้าน เพราะผลงานในประเทศตั้งแต่วันแรกที่นายกรัฐมนตรีเข้ามา ได้ลดราคาพลังงาน เช่น ค่าไฟฟ้า การพักหนี้เกษตรกร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเราเร่งทำงานจนคนนึกว่าเรื่องเหล่านี้ได้มาง่ายๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลใช้ความพยายาม และยังมองถึงเรื่องการปรับโครงสร้างพลังงาน
ส่วนเรื่องการให้บริการด้านสาธารณสุข ได้ฉีดวัคซีนไปล้านรายแล้ว ยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ 30 บาทพลัส ซึ่งช่วงแรกนำร่องใน 4 จังหวัด และปัจจุบันเพิ่มอีก 8 จังหวัด เป็น 12 จังหวัด ส่วนเรื่องพืชผลทางการเกษตร โดยรวมแล้วปรับขึ้นไป 40 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าทุกอย่างเกิดจากการบริหารจัดการทั้งสิ้น โดยเฉพาะราคายางพาราที่ขึ้นจาก 50 กว่าบาทต่อกิโลกรัม เป็น 80 กว่าบาท สิ่งเหล่านี้ต้องใช้การจัดการ ทั้งการหาตลาด การป้องกันการนำเข้ามาผิดกฎหมาย ส่วนราคาข้าว ในที่สุดก็ขึ้นสูง
ขณะที่การเดินทางไปต่างประเทศ ถ้ามองเป็นจุดๆ แบบแคบๆ และคอยหาแต่เรื่องจับผิด ก็จะหาเจออยู่อย่างนั้น แต่ถ้ามองเป็นการบริหารแบบยุทธศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกัน การที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ ไปทำให้คนรู้จัก ทำให้เกิดการติดต่อค้าขายมากขึ้น ให้มีความมั่นใจขึ้น เพราะความมั่นใจคือพื้นฐานของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย อย่าลืมว่างบประมาณรายจ่ายปี 2567 ยังไม่ผ่านสภาฯ รัฐบาลใช้การบริหารจัดการทั้งหมดทั้งสิ้น ผลลัพธ์คือทำให้สร้างรายได้ และเพิ่มโอกาสอย่างมากมาย
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะใช้ในการปรับโครงสร้างสำคัญ ยังติดเกาะกฎหมายต่างๆ ทำให้ยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งขณะนี้เราพยายามฝ่าฟันและดำเนินการอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ยอดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในปลายปีที่แล้ว เราตั้งเป้า 25 ล้านถึง 28 ล้านคน และ 2 เดือนแรกเพิ่มมาอีก 50 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากถามว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความพยายามที่เข้ามาหรือ และนี่ไม่ใช่ความพยายามที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีหรอกหรือ
ส่วนเรื่องในระยะยาวนักลงทุนต่างๆ จะเข้ามา ซึ่งขณะนี้เรากำลังแก้กฎหมาย และกฎระเบียบ ให้ นักลงทุนเข้ามาสะดวก และง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้นี้จะเข้ามาอย่างชัดเจน ขณะนี้มีการติดต่อให้สร้างอีเวนต์สำคัญในประเทศอย่างน้อย ประมาณ 3-4 รายที่กำลังเจรจากันอยู่ โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่ผลงานหรือ หากมองกันอย่างแคบๆ และจ้องจับผิด ก็จะหาไม่เจอความสำคัญของสิ่งเหล่านี้