นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #6เดือนรัฐบาลเศรษฐา #สอบตกทุกข้อ
นับแต่วันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ นายเศรษฐา นำคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา บัดนี้ครบ 6 เดือนแล้ว
คำมั่นสัญญาที่แถลงเป็นสัญญาประชาคมต่อประชาชนไทยว่า จะใช้ความรู้ความสามารถ ตามหน้าที่และอำนาจที่ได้รับมอบไปทำงานอย่างหนักทุ่มเพื่อให้เกิดผลสำเร็จต่อประเทศชาติ
หากถามว่า ครบ 6 เดือนแล้วมีนโยบายเร่งด่วนใดบ้างที่ประสบความสำเร็จลุล่วงบ้าง ความเห็นส่วนตัวคิดว่า น่าจะไม่มีโดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้
1)นโยบายกู้5แสนล้านมาแจกเป็นเงินดิจิทัลคนละ1หมื่น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งเสี่ยงผิดกฎหมาย และไม่กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงจัง เป็นความเสี่ยงที่ได้ไม่คุ้มเสีย ท้ายที่สุดคงต้องยกเลิกโครงการ
2)การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรและประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาสะสม และซับซ้อนเป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลานาน แม้จะริเริ่มดี แต่คงใช้เวลานานมากในการแก้ไข และอาจประสบสำเร็จเฉพาะบางรายบางกลุ่มเท่านั้น
3)การแก้ปัญหาพลังงานเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราว ด้วยการควบคุมราคา ลดการเก็บภาษีสรรพสามิต ยืดชำระหนี้ค้างจ่ายกว่า1แสนล้านแก่กฟผไปก่อน :ยังไม่ได้แก้ปัญหาโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ
4)การยกเลิกวีซ่ากับหลายประเทศ เช่นจีน เป็นเรื่องที่ดี ประสพความสำเร็จต่อยอดงานกิจการด้านต่างประเทศ ที่มีการเจรจากันมาแต่เดิม. แต่มีปัญหาเรื่องที่รัฐบาลอยากได้นักท่องเที่ยวเข้าเมืองมาก จนละเลยปัญหาคุณภาพนักท่องเที่ยว ละเลยปัญหาเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคง โดยเฉพาะระบบลงทะเบียนอิเลคโทรนิคส์ล่วงหน้า เพื่อตรวจสอบข้อมูลบุคคล อาชีพ การลงทะเบียน ถิ่นพำนักในไทย และอื่นๆ ทำให้ขาดระบบตรวจสอบก่อนอนุญาตเข้าเมือง ต่างจากบางประเทศแม้จะอนุญาตฟรีวีซ่าในกับคนไทยแต่ยังใช้ระบบตรวจสอบนี้อยู่ เช่นเกาหลี ญี่ปุ่น จีน ฯลฯ
5)ความร่วมมือกับภาคธุรกิจจัดแสดงสินค้าและงานเทศกาลระดับโลก น่าจะพอจะมีความหวังกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่นงานเทศกาลสงกรานต์ไทย ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและรู้จักเป็นอย่างดี
แต่การจัดอีเวนท์ต่อเนื่องทั้งเดือน และหลายพื้นที่ทั่วประเทศมากไป ทำให้ขาดจุดเด่นเฉพาะที่น่าสนใจและอาจสิ้นเปลืองงบประมาณที่หมดไปกับงานจัดอีเวนท์ในโครงการซอฟท์พาวเวอร์กว่า 5 พันล้านหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องรอติดตามตรวจสอบต่อไป
6)การปรับปรุงสนามบินและสายการบิน :ยังไม่เห็นการแก้ไขปรับปรุงที่เป็นรูปธรรม
7)การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น :ไม่เห็นความตั้งใจและความพยายามอย่างจริงจังใดๆ
8)การปราบปรามการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวต่างชาติ : ยังไม่เห็นรูปธรรมที่ชัดเจน
9)การแก้ไขปัญหารความเห็นต่างเรื่องรัฐธรรมนูญ :ไม่มีความคืบหน้าอย่างแท้จริง
10)การฟื้นฟูหลักนิติธรรม ที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ :ข้อนี้เห็นผลเป็นภาพลบที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากที่สุด ในกรณีใช้อำนาจบริหาโทษ ของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และโรงพยาบาลตำรวจ กรณีนักโทษเด็ดขาดนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี จนประชาชนเสื่อมศรัทธาและขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทย
สรุปจากการประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือนโดยพิจารณาตรวจดูจากการทำงานในประเทศ การเดินทางไปราชการในประเทศ และการเดินทางไปต่างประเทศมากที่สุดในบรรดานายกรัฐมนตรีไทยที่เคยมีมา 6 เดือน 16 ประเทศ โดยเทียบจากคำแถลงนโยบายเร่งด่วนทั้ง 10 ข้อนี้ แล้ว
ท่านใดจะประเมินผลงานอย่างไรนั้นไม่ขอก้าวล่วงแต่ความเห็นส่วนตัวนั้น ได้พิจารณาแล้ว ขอให้คะแนนสอบตกทุกข้อครับ
ดร.สมชาย แสวงการ
สมาชิกวุฒิสภา 10 มีนาคม2567