นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า [ 3 แนวทางการบริหารพื้นที่ทหาร เพื่อสร้างสมดุลระหว่างภารกิจด้านความมั่นคง สวัสดิการทหาร การรองรับการเติบโตของเมือง และผลประโยชน์ของประชาชน ]
วันนี้ (10 มี.ค. 67) ผมได้มาร่วมเสวนา ในงาน "การใช้พื้นที่ทหาร บทบาทหน้าที่ของทหาร กับท้องถิ่นในการพัฒนาประเทศ" ที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
เป้าหมายที่สำคัญที่สุด ที่เราต้องช่วยกันรังสรรค์ให้เกิดขึ้น และดีกับทุกฝ่าย ก็คือ "การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทการ และพลเรือน ภายใต้ความโปร่งใส และการตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ และการชี้แจงเหตุผลต่อสาธารณะอย่างเข้าอกเข้าใจ"
ถ้าไม่อย่างนั้น การพัฒนากองทัพในมิติที่จำเป็น จะถูกแรงต้านจากประชาชน อย่างที่ไม่ควรจะเป็น ซึ่งนอกจากจะบ่นทอนภารกิจด้านความมั่นคงแล้ว ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศอีกด้วย
ผมคิดว่าแนวทางในการบริหารพื้นที่ของกองทัพ จะต้องมีการปรับตัว อย่างน้อย ใน 2 มิติ ดังต่อไปนี้
1) การปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง และการใช้ชีวิต ตลอดจนการประกอบอาชีพของประชาชน เช่น การปรับปรุงพื้นที่สนามกอล์ฟ ให้เป็นสวนสาธารณะ หรือศูนย์กีฬา ที่ประชาชนร่วมใช้ได้ในราคาที่เหมาะสม การจัดสรรพื้นที่รกร้าง ให้เป็นพื้นที่ทำกินให้กับประชาชน ฯลฯ ตลอดจนการวางแผนขยับขยายให้ค่ายทหาร ย้ายออกไปจากพื้นที่เมือง
2) ความโปร่งใส และการเปิดเผยบัญชีผลประกอบการต่อสาธารณะ มีการจัดสรรผลกำไรไปบำรุงสวัสดิการให้กับนายทหาร ที่มีระเบียบรองรับอย่างชัดเจน ประชาชนตรวจสอบได้ มีการจ่ายค่าเช่าให้กับกรมธนารักษ์ หรือปันรายได้ให้กับแผ่นดิน ในอัตราที่สมเหตุสมผล
3) การเปิดโอกาสให้กับท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่ทหาร มีการดำเนินการที่ตรงกับความต้องการของประชาชน ในบริบทที่เข้าใจกองทัพ เพื่อให้กองทัพ และครัวเรือน อยู่ในสถานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน และถ้าเป็นไปได้ ถ้าไม่ได้มีความจำเป็นในด้านการจัดสวัสดิการภายใน และท้องถิ่นมีความพร้อม การถ่ายโอนพื้นที่ให้กับท้องถิ่น ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด