นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงโครงการหลอดไฟฟ้า LED ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เพื่อทำให้กรุงเทพฯ ต้องสว่างตามนโยบาย เดิมจะใช้หลอดไฟ Hi Pressure Sodium ที่มีสีเหลือง เมื่อเปลี่ยนเป็นหลอดแบบ LED จะทำให้มีความสว่างขึ้น และยังช่วยประหยัดพลังงาน และหากมีการใช้ระบบ IOT จะทำให้ทราบจุดที่ไฟดับได้ด้วย
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาพรวมในปี 2566 ซึ่งเราเข้ามาทำงานในปีแรก กทม.ดำเนินการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ไปแล้ว 25,000 ดวง โดย 5,000 ดวงเป็นการติดตั้งในถนนสายหลัก และอีก 20,000 ดวงติดตั้งในตรอก ซอก ซอย ในปี 2567 ตั้งเป้าไว้ที่ 60,000 ดวง โดยแบ่งเป็น 20,000 ดวง จะติดตั้งในถนนสายหลักและมีระบบการติดตามการทำงานของหลอดไฟ (IOT) ที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟ และตรวจสอบจุดที่หลอดไฟดับได้ อีก 40,000 ดวงจะติดตั้งในซอย ซอก ตรอก ขณะนี้ทำได้แล้ว 10,000 ดวง และจะเร่งรัดให้ครบเป้าหมาย เพื่อให้เมื่อครบปี 67 กรุงเทพฯ จะสว่างกว่าเดิม ทั้งนี้หากประชาชนพบจุดที่ไฟฟ้าดับสามารถแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue เพื่อให้กรุงเทพมหานคร เร่งไปแก้ไข
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา และผู้บริหารสำนักการโยธา นำคณะผู้บริหาร และคุณผู้ดู (live) ขึ้นรถรับลม ชมแสง ส่องสำรวจพื้นที่จุดติดตั้งหลอดไฟในเส้นทางถนนสายหลัก ตั้งต้นจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ถนนดินสอ ถนนราชดำเนินกลาง ข้ามสะพานปิ่นเกล้า เข้าถนนอรุณอัมรินทร์ ข้ามกลับมาทางสะพานพระราม 8 สู่ศาลาว่าการ กทม. อีกครั้ง เป็นอันจบทริปชมไฟในราตรีนี้