จากกรณีเกิดปัญหาเฟซบุ๊กล่มจนไม่สามารถล็อกอินเข้าใช้งานได้ เมื่อเวลาประมาณ 22.14 น. วันที่ 5 มีนาคม ตามเวลาในไทย และไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้น แต่เกิดปัญหาแบบเดียวกันทั่วโลก ซึ่งนอกจากเฟซบุ๊กแล้ว บริการอื่นๆของเมต้า ทั้งอินสตาแกรม (Instagram) เธรดส์ (Threads) และเมสเซนเจอร์ (Messenger) ก็ใช้งานไม่ได้เช่นกัน ก่อนที่จะกลับมาใช้ได้ในเวลาอีกราว 1 ชั่วโมงต่อมา
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง X ระบุว่า พบสาเหตุของการล่มแล้ว และอยู่ระหว่างการแก้ปัญหา
ด้านนายแอนดี สโตน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของเมต้า ก็โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ผู้คนเข้าถึงบริการของเมต้า (Meta) ได้ยาก แต่เมต้าได้แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้สำหรับทุคนที่ได้รับผลกระทบ และขอโทษในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น
จากข้อมูลของ DownDetector.com เว็บไซต์ที่ติดตามปัญหาของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ ระบุว่า ช่วงที่เฟซบุ๊กล่ม มีรายงานผู้ที่ไม่สามารถเข้าใช้งานได้กว่า 550,000 ราย ขณะที่อินสตาแกรมมีเกือบ 92,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้คนต่างไม่สามารถใช้งานเฟซบุ๊กได้ หลายคนก็เข้าไปใช้บริการของ X แทน โดยระหว่างนั้น อีลอน มัสก์ เจ้าของ X ได้โพสต์ข้อความว่า "หากคุณสามารถอ่านโพสต์นี้ได้ นั่นแปลว่า เซอร์เวอร์ของเรายังทำงานได้อยู่" ซึ่งเหมือนเป็นการบอกเป็นนัยว่า X ยังให้บริการได้ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นๆบนโซเชียลไม่สามารถใช้ได้ ส่วน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้เข้ามาตอบโพสต์ของมัสก์ว่า “นั่นเป็นเพราะผมปล่อยให้พวกเขาเข้าไป” มาถึงตรงนี้ หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ Facebook ก็เคยประสบปัญหา"ล่ม"ทั่วโลกครั้งใหญ่มาแล้วในปี 2021 ซึ่งการล่มครั้งนั้นกินเวลานานถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งบริษัทกล่าวว่าสาเหตุมาจาก "การเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าบนเราเตอร์แกนหลัก"
เป็นที่น่าสังเกตการล่มของเฟซบุ๊กครั้งล่าสุดเกิดขึ้นพร้อมๆกับการเลือกตั้งขั้นต้นของประธานาธิบดี หรือ SuperTuesday ในสหรัฐอเมริกา โดยสื่อจากสำนักข่าว CNBC ตั้งข้อสังเกตว่าการล่มของเฟซบุ๊กครั้งนี้อาจส่งผลเสียต่อความพยายามในการหาเสียงเพื่อเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานออนไลน์ และจากปัญหานี้ก็ยังพบว่า หุ้นของ Meta ลดลงมากกว่า 1%