นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนต้องออกมาพูดเรื่องนี้ไม่เช่นนั้นคนจะเข้าใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผิดๆ โดยวันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวระหว่างการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อที่จะข้ามไปพบกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้กับคนไทย นักข่าวก็ไปสัมภาษณ์เรื่องที่พรรคก้าวไกลคนหาว่าท่านไม่ไปสภาฯ ท่านก็ถามกลับว่าใครถามหาท่านถ้าอยากเจอท่านก็ไปพบได้ที่บ้านป่ารอยต่อ ท่านให้ทุกคนเข้าไปหาได้อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เฉพาะพรรคก้าวไกล ทุกพรรคการเมืองก็ไปกินข้าวกับ พล.อ.ประวิตร ท่านไม่ได้ปิดกั้น
นายสามารถ กล่าวต่อว่า การที่นักข่าวถามแบบนั้น พล.อ.ประวิตร ก็ตอบชัดเจน แบบชายชาติทหาร ต่อมา หมออ๋อง หรือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ออกมาระบุว่า สส.ขาดประชุมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของวันประชุม ถ้าเกินโดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธานสภา จะสิ้นสุดสมาชิกภาพ ตนขอถามว่า นายปดิพัทธ์ เป็นประธานสภาหรือ ก็ไม่ใช่การที่ สส.จะลาประชุม เขาลากับประธานสภาฯ เขาไม่ได้ลากับนายปดิพัทธ์
“พล.อ.ประวิตร ท่านเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร ท่านรู้จักหน้าที่ รู้จักระเบียบดี แต่ท่านไม่ต้องออกมาพูดว่า ท่านทำอะไร อย่างไร วันนี้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯต้องออกมาพูดว่า พล.อ.ประวิตร ลาเกินหรือไม่ ไม่ใช่หมออ๋อง ผมมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร ท่านรู้ว่า ท่านไม่ได้ทำผิด แล้วก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่อง“
นายสามารถ กล่าวต่อว่า การที่นายปดิพัทธ์ออกมาชี้นำแบบนี้ทำให้สังคมสับสนตนจึงไม่แปลกใจเลยว่า ที่พรรคเพื่อไทยออกมาถล่มนายปดิพัทธ์กันหลายคน เพราะนายปดิพัทธ์ไม่รู้หน้าที่ตัวเอง ชอบสะเออะไปทำหน้าที่คนอื่น ชอบสะเออะไปหาเรื่องกับคนอื่น ซึ่งตนคิดว่า มันไม่เกิดประโยชน์ การเสนอชื่อเลือกตำแหน่งรองประธานในเวลานั้น พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายปดิพัทธ์ ซึ่งทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้เสนอชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย แข่งกัน ถ้าวันนั้นพรรคเพื่อไทยโหวตให้นายวิทยามาทำหน้าที่ตรงนี้ ตนคิดว่าประเทศและสังคมน่าจะเจริญกว่านี้ เพราะนายวิทยามีวุฒิภาวะ รู้จักกาลเทศะ เขารู้จักว่าการทำงานต้องทำอย่างไร
”วันนี้คนทั้งประเทศเขาก็บอกว่า ไม่เคยมีรองประธานคนใดไปทวงถามกฎหมายเรื่องการเงินที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีต้องลงนาม เขาต้องมีการสอบทาน หมายถึง การถามทุกหน่วยงานก่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนายปดิพัทธ์ไม่มีความรู้อะไรเลย แต่อย่างว่า เราจะไปหาอะไรกับคนที่ตระบัดสัตย์ ขายจิตวิญญาณของตัวเอง นายปดิพัทธ์ถูกเลือกมาโดย สส.พรรคก้าวไกล ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล แต่นายปดิพัทธ์กลับยอมให้พรรคก้าวไกลขับออกจากพรรค เพื่อหวังจะเป็นรองประธานสภาฯ โดยไม่สนเลยว่า จะผิดธรรมเนียมประเพณีอย่างไร ไม่สนเลยว่าสังคมจะกล่าวหาอย่างไรนายปดิพัทธ์อ้างประชาชน แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง การที่ออกโจมตี พล.อ.ประวิตร ก็ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไร อีกทั้งยังไม่ใช่หน้าที่ของนายปดิพัทธ์ด้วย ผมขอฝากไปถึงนายปดิพัทธ์ว่า คนเราถ้าไม่พูดจะไม่มีใครรู้หรอกโง่ เงียบไว้บ้างก็จะดี“นายสามารถ กล่าว