นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษและกลับไปพักที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของนายทักษิณ ผ่านกลไกกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน รวมถึงคณะทำงานของพรรค และมั่นใจว่า พรรคฯ ในฐานะฝ่ายค้าน ได้ออกมาท้วงติงกรณีของนายทักษิณมากที่สุด และกรณีของนายทักษิณ ได้สะท้อนว่า คุกมีไว้ขังคนจน เพราะกระบวนการยุติธรรมของกรมราชทัณฑ์ไร้ประสิทธิภาพ มีการดำเนินการที่ไม่ตรงไปตรงมาตามหลักนิติธรรม ทั้งนี้ ต้องถามรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีว่าได้ตระหนักต่อหลักนิติธรรมที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาตอนแถลงนโยบายหรือไม่ และทุกกรณีของนายทักษิณ กลายเป็นความลับทั้งหมด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้ มีการปกปิดความจริงอย่างเป็นระบบ ซึ่งตนมองว่าหลักนิติธรรมของประเทศถูกทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี อำนาจตุลาการถูกท้าทายจากอำนาจราชทัณฑ์
นายราเมศ กล่าวว่าการพักโทษ คือสิทธิของนักโทษ แต่ข้อเท็จจริงกรณีของนายทักษิณ ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว สังคมจึงตั้งคำถามว่า นายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ และรักษาตัวจริงหรือไม่ และที่ผ่านมา บุคคลที่ใกล้ชิดนายทักษิณ ก็ออกมาเรียกร้องการไม่เลือกปฏิบัติ และเท่าเทียม แต่ก็เป็นเพียงลมปากผู้มีอำนาจ ไม่ได้เกิดจากสามัญสำนึกของผู้มีอำนาจที่แท้จริง เรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นการเลือกปฏิบัติ ใช้อำนาจไม่เท่าเทียมกับนักโทษคนอื่นๆ สองมาตรฐาน และยังเหยียบย่ำอำนาจศาล ไม่มีการบังคับโทษตามที่ได้มีการพิพากษาคดีไปแล้ว
ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ที่เคยจะเสนอในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมา โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต สส.นครศรีธรรมราช เพื่อแก้ไขการบังคับโทษของกรมราชทัณฑ์ ที่การพิจารณาพักโทษจะต้องมีคณะกรรมการอิสระมาพิจารณา โดยมีตัวแทนจากผู้พิพากษาศาลฎีกา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือ กสม. เป็นต้น เพื่อป้องกันการใช้อำนาจตามอำเภอใจของบางองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดกรณีปัญหาเหมือนนายทักษิณขึ้นอีก และคงไว้ซึ่งนิติรัฐ นิติธรรมของกระบวนการยุติธรรม